วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

หาเท่าไหร่ไม่เคยพอ หนี้สินเพิ่มพูน ควรอ่าน !!!



ยันต์เทียนตำหรับหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร แห่งตำราล้านนาโบราณ 
เรือนยันต์และคาถาหลักที่ลงอักขระยันต์ ในอดีตอาณาจักรล้านนา "พระเปนเจ้า" หรือกษัตริย์ จะเป็นผู้ใช้เรือนยันต์คาถาหลักนี้เสมอ อันเป็นที่มาของชื่อ " เทียนจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา " เป็นมหายันต์ชั้นสูง มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง พุทธคุณครอบจักรวาล อักขระกลมนต์ยันต์ "ใช้ได้พันช่อง" พุทธคุณชั้นสูง แห่งคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย อำนาจยศศักดิ์ โชคลาภความสำเร็จคือครอบคลุมทุกๆด้าน ...



----------
เล่าขานกันว่า...อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ หากแม้ผู้ใดได้จุดบูชา ก็จะเสริมอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี มีเสน่ห์เมตตายิ่งนักต่อมนุษย์และเทวดา ค้ำคูณหนุนดวงชะตาราศี ให้รุ่งโรจน์ รุ่งเรือง ในหน้าที่การงาน ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่ง เพิ่มพูน เย็นตัวขังตัว โชคลาภจะหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายแคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ศัตรูแพ้พ่ายและกลับกลายเป็นมิตรไม่คิดคดทรยศ จะกระทำการสิ่งใดใดมีผู้ค้ำคูณอุดหนุนช่วยเหลือ พูดอะไรไปได้ดั่งใจคิด จิตจะมีฤทธิ์ความคิดจะมีอำนาจ กระทำการใดใดจะสำเร็จ สมปรารถนาได้โดยง่าย 
----------
เทียนนี้เป็นเทียน "จิตวิเศษ" ปาฎิหาริย์จะเกิดได้ เมื่อผู้บูชาเทียน มีจิตเป็นกุศล มหากุศล หมั่นบริกรรมภาวนาบูชาเทียน ถึงพร้อมด้วย บุญ ทาน ศีล ภาวนาสมาธิ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เคารพนับถือกตัญญูต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ต้องมีสัจจะวาจา .. ผลแห่งสัจจะอธิษฐานก็จะสำเร็จในทุกๆคน ** ไม่มีข้อยกเว้น ** 
----------
-* ท่านจงพึงระวัง *- คำว่า " จิตวิเศษ " คือจิตมีฤทธิ์ ความคิดจะมีอำนาจ !! ด้วยมนตราอักขระเลขกลยันต์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งครูบาอาจารย์ ท่านผู้จุดเทียน " เทียนจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา " ต้องเป็นผู้มีจิตประภัสสร คิดดี พูดดี ทำดี อย่า!! พูดลบคิดร้าย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น #จงเชื่อในแรงครู #เชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย #เชื่อมั่นในเมตตามหากรุณาธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..จะค้ำคูณหนุนชะตาชีวิต พลิกดวง พลิกกรรม เสริมส่งดวงชะตาชีวิตให้สูงส่งสูงยิ่งเหนือดวง !!! 
----------
ตัวเรือนยันต์หลักลงเลขอักขระล้านนาที่ผูกขึ้นจากดวงชะตาเกิดของเจ้าของเทียน .. ล้อมด้วยมหายันต์เทียนชั้นสูงอันมีอำนาจพุทธฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่ง บูชาเทียนด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์.
----------
** มหายันต์เทียน **
** มหาคาถาปโชตา เป็นคาถาโบราณที่สืบมาแต่เมืองลังกาโดยมหาเถรเจ้าไชยมังคละ ผู้จำอยู่วัดพระธาตุหริภุญไชย เมื่อครั้งเดินทางไปกราบพระเขี้ยวแก้ว แล้วจึงนำมาถวายพระเจ้าติโลกราช ผู้มีสมญาว่า ธัมมจักรพรรดิราชแห่งล้านนา หรือที่โบราณเรียกว่า พระเปนเจ้า พระองค์ทรงสวดและถือคาถานี้เป็นคาถาประจำพระองค์เพราะประจักษ์ถึงพุทธคุณดังที่ในจารึกโบราณกล่าวไว้ว่า "พระเจ้าติโลกราชได้จำเริญสวาดธิยายไหว้พระประจำเนืองนิจ พระองค์ก็จำเริญในสิริราชสมบัติยั่งยืนนาน อายุก็ยืนหาพยาธิโรคามิได้ ทั้งยังมีชัยเหนืออริราชศัตรูทั้งปวง และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในล้านนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้นเสนาอามาตย์ เจ้าขุน ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ไหร่ราษฎร์ทั้งมวล หากจำเริญยังพระคาถา ๑๔ บทนี้ ก็จักบริบูรณ์ด้วยเข้าของสมบัติ ยศ สิริ เดช อายุ วัณณะ สุขะ พละ ทุกประการ อีกทั้งสมณเพศ มีชีป่ามหานาคเจ้า หากสร้างเป็นยันต์ไว้กับตนก็หากวุฒิจำเริญด้วยสิกข์โยมคุรุอุปัฏฐากมากนัก" ได้นำมาล้อมไว้เป็นกรอบของยันต์เทียนวิเศษนี้
----------
** ยันต์ปฐมะ......(เป็นความลับเฉพาะ) เป็นยันต์เทียนวิเศษตำหรับล้านนา มีที่มาว่าลืบมาแต่มหาราชครูเมืองอังวะ โบราณผู้ที่สามารถใช้เทียนที่สร้างจากไส้เทียนลงเรือนยันต์นี้ได้ต้องเป็น พญา กษัตริย์ เจ้าเมือง และมหาอำมาตย์ชั้นสูงเท่านั้น เพราะมีพุทธคุณสูงใช้ได้พันช่องคือครอบจักรวาล โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้ง ครูบาเจ้าศรีวิไชย ต้องอธิกรณ์ครั้งแรกนั้น ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ทราบข่าวนี้ได้ทำเทียน ปฐมะ..... นี้ขึ้นแล้วจุดบูชาพระประธานในวัดสวดให้แก่ครูบาเจ้าศรีวิไชย กาลล่วงมาเมื่อครูบาศรีวิไชยพ้นอธิการณ์แล้วได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์หลวง วันหนึ่งขณะนั่งอยู่บนวิหาร ครูบานันตา ได้เดินทางเข้ามายังวัดพระสิงห์หลวง เมื่อครูบาเจ้าฯเห็นเข้าจึงลุกขึ้นพูดว่า "ครูบาต๋นนี้แลต๋ามเตียนหื้อเฮาพ้นอธิกรณ์" ทั้งๆที่ทั้ง 2 ท่านไม่เคยเจอกันมาก่อน เป็นข้อพิสูจน์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของยันต์บทนี้
----------
** ยันต์โสฬสมงคล ลงตำหรับแบบล้านนา ยันต์โสฬสมงคลและยันต์มหาโสฬสมงคลจัดเป็นยันต์ชั้นสูง ทำเป็นตัวเลข ๓ ชั้น ชั้นนอกลงด้วยเลข ๑๖ ตัว (โสฬส แปลว่า ๑๖ ชั้นฟ้า มีความหมายถึงภูมิชั้นอรูปภูมิอันเป็นถิ่นที่อยู่ของพระพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น และหมายถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๖ ประการ) พระมหายันต์นี้ปรากกฏหลักฐานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงตั้งศาลหลักเมืองโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญยันต์มหาโสฬสมงคลประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองและมหามงคล ณ เสาหลักเมือง พระยันต์นี้แม้แต่ สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่ายันต์โสฬสมงคลเป็นยันต์อันวิเศษสุดกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศนฯ และเขียนสอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศีรษะตลอดเวลา จนกระทั่งท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๗ ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้พบแผ่นยันต์วางใว้ใต้หมอนของท่าน
----------
** ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ ที่สุดแห่งกลยันต์เรียกเงินเรียกทอง ค้าขายดี รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยมีคาถากำกับว่า "จะตุโร นะวะโม ทะเวโช ตรีนิ ปัญจะ สัตตะ อัฏฐะ เอโก ฉะวัจฉะราชา" กาลคราวนี้นำมาลงด้วยอักขระตำหรับล้านนาล้วน เพื่อความเป็นมงคล ร่ำรวยๆ
----------
** คาถาล้านนาจาก อักขระ 7 ตัวบ่มีไม้อยู่ใต้กรณี(บทกรณีเมตตาสูตร) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า หัวใจกรณี 7 ตัว ท่านว่าดีทุกๆทาง สมัยก่อนครูบาอินทจักรโก(แก้ว) วัดป่าลาน ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของครูบาหลวง(ครูบาโสภา) วัดฝายหิน พระมหาสังฆราชาแห่งนครพิงค์เชียงใหม่ และท่านเป็นอาจารย์ของครูบาขันแก้ว อุตตโม อีกที ครูบาอินทจักรโกนี้ ท่านเก่งอรรถบาลี (สตานกปาก) สามารถรู้ภาษานกกาได้ ท่านก็ใช้พระคาถาบทนี้เป็นประจำ พุทธคุณฝอยท้วมหลังช้าง "ส๊ะ ห๊ะ ว๊ะ ส๊ะ ตะ ส๊ะ น๊ะ" และครูบาอินทจักรโก รูปนี้เท่าที่ทราบมา ท่านเป็นผู้ที่เปลี่ยนชื่อวัดสันพระเจ้าแดงเป็นวัดป่ายาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ช่วงฤดูแล้งของทุกๆปีจะมีไฟไหม้ไฟลามเข้าหมู่บ้านและวัดสันพระเจ้าแดงเสมอๆ จนครูบาขันแก้วท่านต้องไปปรึกษาครูบาอินทจักรโก ถึงปัญหาไฟไหม้ไฟลามตรงนี้ ครูบาอินรจักรโก(แก้ว) ในคืนนั้นท่านเข้ากรรมฐานนับประคำตรวจดูว่าเกิดจากสาเหตุใด จนท่านได้คำตอบจากจิตอันแน่ชัด จึงได้ให้ครูบาขันแก้วเปลี่ยนชื่อวัดเสียเรื่องร้ายๆจะกลายเป็นดี โดยจากเดิมชื่อวัดสันพระเจ้าแดง ให้เปลี่ยนใหม่เป็น วัดป่ายาง จนมาถึงทุกๆวันนี้
..
และ คาถาหนุนธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สืบมาจากตำหรับพม่าคือคาถา สะตะปะวะ ที่มหาฤาษีภูภูอ่อง ราชครูแห่งพระเจ้าบุเรงนอง เหาะขึ้นไปลงไว้บนคอระฆังมหาเจดีย์ชเวดากอง 
----------
" เทียนจักรพรรดิพระเปนเจ้าล้านนา "ทุกเล่ม ครูบาอาจารย์ตั้งใจกำหนดจิต สร้างให้มีฤทธิ์อิทธิคุณวิเศษ ผู้จุดบูชาก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความเชื่อมั่น ศรัทธา ไม่มีความลังเลสงสัย ก็จะนำมาซึ่งปาฎิหาริย์ต่อชีวิตอันประมาณมิได้เลย