วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ทำมาหากินลำบาก อุปสรรคขัดขวางมาก อาจเกิดจากรรมจากการขวางบุญ



กรรมจากการขวางบุญผู้อื่น และเรื่องในพระไตรปิฏก

การขวางบุญผู้อื่น

การขวางบุญผู้อื่น ถือว่าเป็นกรรมฝ่ายอกุศลกรรมอีกชนิดหนึ่ง ถือว่าเป็นกรรมใหญ่ที่บั่นทอนรายได้และความเจริญอย่างมาก มีหลายชนิดดังนี้

การขวางบุญโดยไม่ให้ผู้อื่นรักษาศีลและนั่งสมาธิ ถือว่าเป็นกรรมใหญ่ เพราะศีลเป็นบุญชั้นกลาง สมาธิเป็นบุญชั้นสูง คือเป็นครุกรรม คือกรรมหนักฝ่ายกุศล ถ้าผู้ใดไปขวางบุญชนิดนี้ จะทำให้ผู้นั้นได้รับความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างมาก

การขวางบุญในการแสดงธรรม-การฟังธรรม คือ ในขณะที่อาจารย์สอนธรรมะให้คนทั่วไปฟังอยู่นั้น หรือในขณะที่พระทำพิธีสวดมนต์อยู่นั้น อาจจะมีบางคนพุดคุยกันในที่แห่งนั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่ถูกชวนคุยนั้นฟังที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง และยังทำให้คนข้างๆ เสียสมาธิในการฟังด้วย เป็นการรบกวนคนอื่นรอบข้าง หรือการกระทำใดๆก็ตามคนที่ฟังธรรม ในที่แห่งนั้นเสียสมาธิในการฟัง หรือถูกรบกวนการฟังธรรม ทั้งที่ผู้ที่กระทำนั้นไม่ได้มีความตั้งใจหรือมีเจตนา แต่เขาผู้นั้นจะต้องได้รับกรรมชดใช้ และกรรมของการขัดขวางบุญผู้อื่นแน่นอน และผลกรรมที่ได้รับก็คือ เขาจะเป็นผู้ตาบอด หูหนวก เป็นต้อเนื้อ ต้อกระจก ปากแหว่ง หรืออาจจะปากเสีย

หรือฟันในปากมีปัญหาทำให้ได้รับความเจ็บปวดมาก อาจจะเป็นคนปากเหม็นมาก หรืออาจจะทำให้เขาผู้นั้นเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ซึ่งจะอยู่กับกรรมที่ทำมา ว่าเขาขวางบุญมากหรือน้อยแค่ไหน แต่เขาจะได้รับโทษอย่างแน่นอน ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนก็จะต้องเป็นชาติต่อๆ ไปโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

และใครจะเอาเด็กไปฟังธรรมด้วย ก็ขอให้ดูแลให้ดี มิฉะนั้น ตัวเด็กจะทำบาปโดยไม่รู้ตัว เช่น การส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น

หลายคนอาจสงสัยว่า แค่พูดกันหรือแค่โทรศัพท์อาจจะรบกวนคนอื่นบ้าง แต่ทำไมต้องได้รับโทษขนาดนั้น ก็จะขออธิบายว่า...

การฟังธรรมะ...ไม่เหมือนกับการฟังอาจารย์สอนความรู้วิชาการด้านต่าง ดังที่เราได้เคยร่ำเรียนมา เพราะความรู้เหล่านั้น ไม่สามารถที่จะทำให้เรากลายเป็นคนดีได้ จนทำให้เราพ้นจากนรกหรืออบายภูมิ และความรู้เหล่านั้น ก็ไม่สามารถทำให้เราตายแล้ว ไปเกิดบนสวรรค์ได้ จึงถือว่าเป็นความรู้ที่ธรรมดา ไม่เหมือนกับความรู้ที่ได้จากธรรมะ เพราะถ้าผู้ใดสามารถรู้ และเข้าใจจนสามารถพิสูจน์ได้ เขาผู้นั้นก็จะกลายเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนใคร และเมื่อตายไปก็จะรอดพ้นจากนรกหรืออบายภูมิได้ และธรรมะยังทำให้เขารู้หนทางที่จะไปเกิดบนสวรรค์ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นความรู้ในธรรมะจึงถือว่าเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่มีความรู้ใดเทียบเท่าได้

เพราะฉะนั้นการขวางบุญในการฟังธรรม จึงเท่ากับขวางแสงสว่างในชีวิตของคนบางคน และขวางความเจริญรุ่งเรืองทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป ของบุคคลผู้นั้นด้วย จึงทำให้ผู้ที่ขวางบุญคนอื่นนั้นได้รับผลกรรมที่หนักพอสมควร ดังที่กล่าวมาแล้วนั่นเอง

การขวางผู้อื่นทำทาน คือ เมื่อเห็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือแฟน สามี มิตรสหายจะทำบุญหรือให้ทาน เช่น จะทำทานสร้างโบสถ์หรือวิหารสักแห่ง ประมาณ ๑,๐๐๐ บาท ผู้ที่ขวางบุญก็จะบอกว่า ทำแค่ร้อย สองร้อย ก็พอ หรือจะให้เงินขอทานสัก ๒๐ บาท ผู้ที่ขวางบุญก็จะบอกว่า อย่าไปให้เลย เพราะจะเป็นการสนับสนุนเขาให้เป็นขอทาน แต่พอถามว่า เมื่อเขาเป็นคนพิการ คุณจะพาเขาไปหางานทำหรือจะช่วยเหลือเขาหรือเปล่า ผู้ขวางบุญกลับบอกว่า ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผม ซึ่งฟังแล้วแปลกดี

ไม่มีหน้าที่..ช่วย แต่กลับมีหน้าที่..ขวาง..บุญ ซึ่งผลกรรมในการขวางบุญ เรื่องการให้ทานนี้ จะทำให้เขาเป็นผู้ทำมาหากินลำบาก ถูกขัดขวาง เกิดอุปสรรคมากมาย ลาภผลที่จะได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และที่สำคัญ เมื่อเขาตายไปแล้ว ถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง

อาจจะเป็นมนุษย์ตัวเตี้ยผิดปกติ จนไปถึงกลายเป็นคนแคระก็อาจเป็นไปได้ เป็นผลมาจากการขวางบุญที่เขาเคยทำในอดีตชาตินั่นเอง จะเตี้ยมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่ที่กรรม ขวางบุญคนอื่นมากน้อยเพียงไร

---------------------------------

ชาติก่อนเคยขวางบุญไว้

ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำวัตรอยู่ในโบสถ์มีอุบาสกคนหนึ่งมีความประสงค์จะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
จึงเดินเข้าไปในโบสถ์ พอไปถึงหน้าโบสถ์เห็นเป็นเณรยืนอยู่ มีลักษณะตัวเล็ก จึงเข้าไปลูบหัวด้วยความเอ็นดูรักใคร่
เสร็จแล้วได้เเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าในโบสถ์ เมื่อกราบนมัสการเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าทรงถามอุบาสกว่า
"อุบาสกเดินเข้ามาได้เห็นพระอรหันต์องค์หนึ่งอยู่หน้าโบสถ์หรือไม่" อุบาสกตอบว่า
"ข้าพระพุทธเจ้าไม่เห็นพระอรหันต์สักองค์หนึ่งเลย เห็นแต่สามเณรน้องน่ารักอยู่องค์เดียวเท่านั้นพระเจ้าข้า"

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "นั่นแหละ พระอรหันต์ละ"

อุบาสกเมื่อรู้ว่าสามเณรน้อยน่ารักผู้ที่ตัวเองได้ลูบศีรษะนั้นคือพระอรหันต์ก็รู้สึกตกใจมาก และได้ถามถึงบุรพกรรมของสามเณรว่า
ทำไมถึงได้มีร่างกายเล็กและเตี้ยเหมือนกับเด็ก พระพุทธเจ้าจึงเล่าถึงอดีตชาติของพระอรหันต์องค์น้อยว่า
"ในอดีตชาติ ท่านได้เป็นอุบาสกผู้มีใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและได้ร่วมกับพรรคพวกของท่านวางแผนสร้างเจดีญืขึ้นหนึ่งองค์
ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มีความเห็นว่าต้องการที่จะสร้างเจดีย์ให้สูงเท่านกเขาเหิน แต่ตัวท่านกลับเห็นว่าสูงเกินไป และให้ความเห็นแก่ทุกคนว่า
พวกเราไม่ควรสร้างให้สูงปานนั้น ควรจะสร้างให้ต่ำๆ จะดีกว่า ทุกคนจึงมีความเห็นตามอุบาสกผู้นี้พูด และได้ตกลงสร้างเจดีย์ตามนั้น
เพราะกรรมการบั่นทอนหรือขวางบุญผู้อื่น ซึ่งบุญที่คนทั้งหลายควรจะได้มากหรือได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เมื่อถูกเราไปขวาง
จึงทำให้สิ่งที่เขาควรจะได้รับนั้นลดลง หรือบางทีอาจจะไม่ได้เลย กรรมอันนี้นี่เองที่ทำให้ในชาตินี้ท่านจึงได้เกิดมาตัวเตี้ยผิดจากมนุษย์ธรรมดา"






ในช่วงชีวิตของคนนั้น ในห้วงแห่งความทุกข์แสนสาหัสที่กรรมฝ่ายไม่ดีกำลังส่งผล ที่เขาเรียกว่า “คนดวงตก” ที่มีหลายกรรมฝ่ายไม่ดีที่เคยทำเข้ามาส่งผลในชีวิตพร้อมๆ กัน

ดวงตกที่ว่ามาจากความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ทางโหรนั้นเรียกคนที่กำลังมีเรื่องราวไม่ดีที่ดึงให้ตกต่ำ ทำอะไรมักติดขัดหรือไม่สำเร็จ ประเภทจับอะไรเป็นเจ๊ง จับอะไรเป็นเรื่องทุกทีเขาว่า ดวงตกหรือดวงชะตาอ่อน

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” เพราะชีวิตในช่วงนั้นมันวุ่นวายอลหม่านพอสมควรไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หลายคน บางช่วงของชีวิต ปัญหางาน ปัญหาการเงิน ปัญหาชีวิต ปัญหาเพื่อน ก็ถั่งโถมเข้ามามากเหลือเกิน จนบางคนแทบทนไม่ไหว

เหตุที่ดวงตก

สาเหตุหลักนั้นมาจาก 2 เรื่อง ของมาจากรรมเก่าในอดีตและกรรมใหม่ที่ทำในชาตินี้ เป็นกรรมฝ่ายไม่ดี ที่มารวมกันในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนทำให้ทุกอย่างติดขัดไปหมดเสียทุกเรื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของกรรมเก่าในอดีตนั้น เราไม่มีทางทราบว่าเป็นกรรมอะไรบ้าง แต่ถึงไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็พอจะศึกษาด้วยกฎแห่งกรรมได้ เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ทำกรรมแบบนั้นขึ้นมาอีกในชาตินี้ เพราะกรรมเก่าจากอดีตบางกรรม กำลังส่งผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันบางกรรมก็รอที่จะส่งผลในอนาคตอันใกล้นี้

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรมหรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็ต้องทำให้ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกันอีก

เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง

หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ

อันชีวิตของเรานั้นมาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า เทพเจ้าองค์ใด ไม่ได้มาจากดวงดาว ดาวพระเคราะห์หรืออะไรเป็นผู้กำหนด การกระทำหรือกรรมของเราเองนั่นแหละเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น

ใครทำอะไรไว้เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับผลที่ทำเอาไว้ตามนั้น ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนผลลัพธ์ไปได้ ทำดีต้องได้ ทำชั่วต้องได้ชั่ว ผลต้องเป็นไปตามนั้นปลูกหรือหว่านอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น ปลุกข้าวก็ต้องได้ข้าว ปลุกกล้วยก็ต้องได้กล้วย ไม่ใช่ปลุกกล้วยแล้วผลออกมาเป็นรวงข้าว มันเป็นไปไม่ได้

ที่เราเรียกว่า “ดวงตก” นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “วิบากกรรมไม่ดีเข้า” มากกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผลของกรรมไม่ดีที่ทำมากำลังส่งผล อาจจะมีหลายๆ กรรมมาพร้อมๆ กัน อาจจะหนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ทำให้ชีวิตวุ่นวายพอสมควร

เป็นช่วงที่ผลของบุญที่เคยทำมานั้นอาจจะส่งผลน้อยมากหรือกำลังไม่พอกับกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผล ทำให้มีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข คนเรานั้นยิ่งทุกข์อยู่แล้ว มีเรื่องทุกข์เข้ามาเพิ่มแม้จะน้อยนิดเบาเท่าขนนุ่นหรือขนนก ถ้าขาดสติ ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีการแก้ไขอาจทำให้ชีวิตนั้นพังทลายได้เหมือนกัน

นอกจากกรรมเก่าที่เราไม่รู้แล้วยังมีกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราทำ ที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วหรือเจตนาหรือไม่เจตนาแต่ผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น ให้เงินคนกินเหล้า เราอาจจะไม่ตั้งใจหรือทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่แต่ก็ให้ไป คนที่ได้เงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน พอเมามายเต็มที่ไปก่อคดีขึ้นมา ก่อกรรมขึ้นมาเพราะเหล้าที่มาจากเงินของเรา ถ้าไม่มีเงินของเราที่ให้ไปเขาก็ไม่มีเงินไปซื้อเหล้ามากินแล้วก่อกรรมขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าเรามีส่วนในกรรมนั้นแน่นอน

หรือเป็นคนขับรถพาคนไปทำแท้ง คนแนะนำสถานที่ให้คนไปทำแท้งหรือพูดจาส่งเดช แบบคนเขาทุกข์มาปรึกษาก็พูดส่งๆ ไปว่า เลี้ยงไม่ไหวก็ไปทำแท้งเสียดีกว่า แล้วเขาก็ไปทำแท้งจริงๆ คนที่พูดนี่ก่อกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนชีวิตนั้นต้องทนทุกข์ทรมานทำอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะมีส่วนร่วมในกรรมนี้ ในการฆ่าคนตาย ร่วมฆ่าเด็กตายโดยไม่เจตนา

แม้แต่การกระทำหรือกรรมในชาตินี้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก็ยังทำ เช่น เป็นคนขี้เกียจ จับจดทำอะไรก็ไม่เอาจริง คิดแต่คอยคดโกงคนอื่น หรือพูดจาโกหกพกลมไปวันๆ พอมีความจำเป็นไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาก็จะช่วยเพราะเป็นคนแบบนั้น ทำกรรมขึ้นมาเองหรือเป็นคนที่ทำให้ตัวเองดวงตกด้วยมือ ด้วยการกระทำของตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครเขาไปทำให้

หลายเมื่อชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จจับอะไรเป็นพัง ค้าขายอะไรเป็นเจ๊ง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น ไปโทษเจ้ากรรมนายเวร โทษฟ้าโทษดิน ควรจะโทษตัวเองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำมาเสียก่อน

สำรวจตนเองว่าทำกรรมดีอะไรมาบ้างในชีวิต ถ้าคิดว่ายังน้อยก็จงรีบทำให้มากเสีย บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริงทั้งสร้างใจให้เป็นสุข หนุนนำชีวิตให้ดีขึ้นและเป็นเสบียงไปเลี้ยงตัวในภพชาติต่อไป

กรรมไม่ดีหรือกรรมชั่วนั้นต้องลด ละ เลิกเสียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรไม่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นแม้เพียงน้อยนิดก็ถือว่าเป็นกรรมไม่ดี ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่าใด เมื่อถึงเวลาส่งผลเราอาจจะรับมือไม่ไหว

ขอให้เชื่อและมั่นใจเถิดว่า การทำกรรมดีหมั่นสร้างบุญกุศลนั้น ช่วยได้จริงสำหรับคนที่ดวงตก ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงทั้งแบบช่วยเหลือเร่งด่วนและแบบถาวร บุญนั้นจะช่วยคลายทุกข์จากหนักให้เป็นเบาหรือเบาให้หายไปได้

กรรมชั่วนั้นเหมือนกับยาพิษ ถ้าเรากินเข้าไปทันทีเราอาจจะตายได้ถ้าเราเอายาพิษนั้นไปใส่ไว้ในตุ่มแล้วเอาน้ำสะอาดใส่เข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยาพิษนั้นก็เจือจางจนแทบไม่มีผลอะไรอีกแล้ว กรรมดีนั้นเหมือนน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่เราเติมเข้าไปในตุ่ม ที่ยิ่งมีมากเท่าใด ยาพาหรือกรรมชั่วนั้นก็แทบไม่มีพิษสงอะไรอีก

กรรมที่ติดตามเรามานั้นเหมือนหมาไล่เนื้อ เมื่อมันวิ่งทันเหยื่อหรือตัวเราเมื่อใดมันจะกัดกินทันที ยิ่งเมื่อเหยื่ออ่อนแรงหรือบุญนั้นน้อยไม่มีกำลังพอ มันก็วิ่งมาทันและมากัดกินได้ง่ายดาย แต่ถ้าเหยื่อนั้นมีกำลังหรือมีบุญมากกว่า มีแรงวิ่งแบบไม่หยุดและเร็ว หมาไล่เนื้อมันก็วิ่งตามไม่ทัน

แต่ถ้าเหยื่อนั้นประมาทหรือหลงทางคือ ทำกรรมชั่วมากขึ้นไปอีกยิ่งไปตัดทอนกำลังที่จะวิ่งหนีหรือถึงขั้นวิ่งมาหมาไล่เนื้อเอง ชีวิตของเหยื่อคงต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและเร็วขึ้นแน่นอนอุปมาทั้ง 2 เรื่องที่ยกมานั้นคือเรื่องของกรรมดีและกรรมชั่วโดยเฉพาะ

ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ถ้าเราทราบจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้วว่า เป็นเพราะกรรมไม่ดีที่เราทำนั้นส่งผลก็จึงมีอยู่ 2 ทางที่เร่งด่วนที่จะแก้ไข ก็คือ ลด ละ เลิกอย่าทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีกที่มาซ้ำเติมชีวิตของตนเอง และเร่งทำกรรมดีพาตัวเองให้รอดจากกรรมชั่วที่กำลังส่งผลนั้นเสีย

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดมาก หลายคนจึงยากที่จะเข้าใจว่ากรรมใดจะเกิดก่อนหรือเกิดทีหลัง เป็นเพราะความหนักเบา ที่ขึ้นอยู่กับวัตถุ ประโยคหรือความพยายามและเจตนา แต่ดูได้ง่ายๆ จากผลที่เกิดขึ้นนั้นดีหรือร้ายแรงกระทบออกไปเพียงใดทั้งต่อตนเอง ต่อคนอื่นและคนหมู่มากแค่ไหน

คนที่โกงเงินคนอื่นเพียงคนเดียว ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้นน้อยกว่าคนที่คดโกงเงินของชาติบ้านเมือง ที่มาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของคน 60 ล้านคน คนที่ก่อคดีเดียวย่อมได้รับโทษน้อยกว่าคนที่ก่อคดีมาเป็นสิบ เจ้าทุกข์หรือเจ้ากรรมนายเวรก็มากกว่า ผลที่ทำมาก็มากกว่าเช่นกัน

คนที่ฆ่าสัตว์แบบครั้งเดียวไม่เจตนาเช่น เดินเหยียบหอยทากตายกับคนที่ฆ่าช้างแบบเฝ้ากันเป็น 10 วัน 10 คืน กว่าจะฆ่ามันได้ต้องใช้ลูกปืนเป็นร้อยนัด สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้ช้าง ย่อมจะได้รับกรรมที่หนักกว่า

คนที่เพียรพยายามทำงานด้วยความสุจริต ทำกรรมดีมาเป็นเวลา 10-20 ปีหรือชั่วชีวิตย่อมได้รับผลจากที่ทำมาได้รับการนับถือยกย่องมากกว่าคนที่พยายามทำดีเพียงวัน 2 วัน

อันคนเรานั้นเวียนว่าย ตาย เกิดมานับไม่ถ้วนย่อมก่อกรรมทั้งดีและร้ายมามากมายเหลือคณานับ ลองคิดแค่ชาติเดียวที่เกิดมานี้ ลองนั่งทำใจให้นิ่ง นึกย้อนหลังไปก็จะพบว่าเรากระทำอะไรมามากมาย นี่แค่ชาติเดียว และถ้าหลายร้อยชาติ พันชาติ เราสร้างกรรม สร้างเจ้ากรรมนายเวรมามากมาย นึกเปรียบเทียบดูว่าเราไปยืมเงินคนมาสัก 10 คน เมื่อถึงวันหนึ่งเจ้าหนี้ทั้ง 10 คนเขามาทวงหนี้พร้อมๆ กันในวันเดียว แล้วเราจะทำอย่างไร

คนที่มีเงินกักตุนไว้หรือมีบุญกักตุนไว้เยอะก็คงพอจะรอดไปได้ แต่คนที่ไม่มีเงินหรือเงินน้อยหรือบุญน้อยจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลาที่เขามาทวงพร้อมกันนั่นแหละที่เขาเรียกกันจนชินปากว่า”ดวงตก” เพราะเป็นช่วงที่แย่สุดสุด เป็นช่วงที่ทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมใหม่เขามายืนทวงพร้อมกัน ชีวิตของเราคงแย่แน่นอน

ลองพิจารณาดูถ้าเห็นว่าดีกับชีวิตจึงค่อยทำ แต่ถ้าไม่เชื่อและไม่คิดว่ามันจะดีกับชีวิตก็ขอให้อย่าทำ ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปเสีย



ชีวิตล้มเหลวติดขัดทุกข์ใจ ตกอับโชคร้าย หนี้สินรุมเร้าปัญหาชีวิตรุนแรง ทำกินไม่ขึ้น ได้เงินเท่าไหร่ก็มีเหตุต้องเสียไปตลอด เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ โชคลาภไม่เคยมี ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ไม่รวยเสียที มีแต่เจ๊งกับเจ๊า!!! ความรักไม่เป็นรองเขาก็มีมือที่สามสี่ห้า คนรอบข้างไม่รักไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจพึ่งพาใครไม่ได้
- - - - - - - - - - - - - -
หากทำมาแล้วทุกอย่างชีวิตไม่เคยดีขึ้น ให้จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เทียนสืบชะตาล้านนา จุดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง หนุนชะตาดู เป็นศาสตร์วิชาศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา ที่ครูบาอาจารย์สร้างเอาไว้ช่วยเหลือคนดวงตก วิบากกรรมไล่ล่ารุนแรง ชีวิตตกต่ำทำมาหากินไม่ขึ้น การเงินวิกฤต หนี้สินล้นตัว


เมื่อเจ้าชะตาได้จุดจุดบริกรรมบูชาเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เสริมบุญหนุนดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ขอขมากรรมไปแล้ว พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว และดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น เกิดเมตตาสง่าราศี ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยดี ชีวิตจะกลับมาสว่าง ลืมหู ลืมตาได้อีกครั้ง เป็นการเสริมดวง หนุนชะตาชีวิต ให้หลบหลีกเคราะห์ พ้นโชคร้าย เปิดดวง รับโชคดี รับโชคลาภวาสนา ให้จุดสร้างบุญเสริมบารมีติดต่อกัน 9 วัน จุดวันละ 1 เล่ม ควบคู่ไปกับการสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ  ก็จะได้รับโชคดี จะมีโชคลาภ ความสำเร็จสมประสงค์ ดังปรากฎให้เห็นมาแล้ว มากมาย

ผู้ใดที่มีโอกาสได้จุดบูชา ล้วนได้พบอัศจรรย์ชีวิต พลานุภาพแห่งเทียนป๋าระมี๓๐ทัศนี้เป็นสิ่งรู้เฉพาะตน รู้ได้ก็เฉพาะผู้ทึได้จุดบูชาเท่านั้น!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬

💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

ยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศนี้..เป็นวิชาที่พระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วอาราทนาก่อนออกทำการ "ยุทธหัตถี" กับมหาอุปราชา จนทำให้ทรงมีชัยชนะ ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ สมัยโบราณ ตีราคาพระยันต์นี้เท่ากับค่าควรเมืองเลยทีเดียว จึงเรียกยันต์เทียนนี้ว่ายันต์เทียนพิชัยครามแห่งการชนะศึก ศัตรูแพ้พ่าย ด้วยมหาอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนบารมี๓๐ทัศจุดบูชาดวงชะตา ลดเคราะห์-สะเดาะวิบากกรรม ขอขมากรรม พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว อำนาจแห่งบุญและอโหสิกรรมจะยกดวงชะตาให้สูงขึ้น เหนือดวงชะตาเดิม เกิดเมตตามหานิยม อำนาจบารมี มีสง่า มีราศี พาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ให้พ้นผ่านไปด้วยดี แคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ค้ำคูณหนุนดวงชะตาราศี ชีวิตจะกลับมาสว่าง รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ อีกครั้ง อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ จะเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ บารมี ให้เป็นที่รักใคร่เมตตาต่อมนุษย์และเทวดา ปัดเป่าสรรพเคราะห์ทั้งหลายให้หายไปจากตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่งชีวิตมั่นคง โชคลาภความโชคดีจะไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาด จะเหนือคนเหนือใครเหนือดวง ศัตรูแพ้พ่าย บริวารและมิตรไม่คิดคดทรยศ ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครทำ ชีวิตก็จะดีขึ้นเหนือดวงชะตาได้อย่างอัศจรรย์!!!

( 1คาบมี 9 เล่ม หมั่นจุดจะยกดวงชะตาให้เหนือกว่าดวงชะตาเดิม )
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ 1 คาบมี 9 เล่ม
จุดติดต่อกันวันละ 1 เล่ม ติดต่อกัน 9 วัน

❅ ไส้เทียนฟั่นจากสายสินญ์ปลุกเสกแช่น้ำส้มป่อยล้างคุณไสยสิ่งอัปมงคลทั้งปวง พันล้อมด้วยยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศ มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์จารล้อม ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แห่งดวงชะตาเจ้าของเทียนแบบเฉพาะตัวบุคคล

❅ สีเทียนล้อมมหายันต์ด้วยขี้ผึ้งแท้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกฟั่นเทียนปลุกเสกบริกรรมเวทย์คาถาปัดเคราะห์ หนุนดวง เสริมชะตา เล่ม-ต่อ-เล่ม ตามโบราณพิธีครบสูตร -

▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 มีเรื่องเล่าว่า...ครั้งหนึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัย เดินธุดงค์แถบภาคเหนือ ขณะที่ท่านเดินผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง ท่านได้สังเกตุเห็นกระท่อมที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ก็เหลือชายคาอีกบางส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟ ท่านแปลกใจ จึงเดินไปดู ก็ได้เห็นหนังสือใบลาน เป็นคาถาบารมี ๙ ชั้น อยู่ฉบับหนึ่ง เหน็บอยู่ที่ชายคา เขียนเป็นภาษล้านนา(ตั๋วเมือง) ซึ่งเป็นคำไหว้บารมี ๓๐ ทัศนั่นเอง
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 " เทียนป๋ารามี๓๐ทัศ "ทุกเล่ม ครูบาอาจารย์ตั้งใจกำหนดจิต สร้างให้มีฤทธิ์ มีอิทธิคุณคุ้มครองแคล้วคลาดหลีกเคราะห์อย่างวิเศษ ผู้จุดบูชาก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อมั่น ศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ก็จะนำมาซึ่งปาฎิหาริย์ต่อชีวิตอันประมาณมิได้เลย ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนานี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครหมั่นจุด ชีวิตก็จะดีขึ้นจะรุ่งโรจน์เหนือดวงชะตาเดิมได้อย่างอัศจรรย์!!!
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

เจ้าชะตาบูชาเทียนไปจุดด้วยตนเองที่บ้าน 1 คาบมีเทียน 9 เล่ม จุดติดต่อกัน 9 วันๆละ 1 เล่ม

หรือขอบารมีพระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตาตามมนต์พิธีโบราณแห่งล้านนาเสริมให้เจ้าชะตา...

พระอาจารย์จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ สืบชะตาสะเดาะเคราะห์ เดือนละ 2ครั้ง

1.ฤกษ์ปุรณมีจันทร์เพ็ญเต็มดวง เสริมดวงเสริมบุญบารมี ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ชีวิตมั่งคั่ง มั่นคง (วันขอพร อำนาจ ความสำเร็จ ความสมบูรณ์เป็นเลิศ ความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ไม่สิ้นสุด )

2. ฤกษ์อมาวสี new moon เริ่มต้นรอบใหม่แห่งจันทรา เปิดรับสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิต ดับเคราะห์ดับภัย เปิดดวง รับโชคลาภ มีโชคดี (วันขอเงินขอโชคลาภพระจันทร์)

หมั่นพึ่งบุญบารมีให้พระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตา สะเดาะเคราะห์ เสริมบุญหนุนดวง รับโชคดีมีโชคลาภให้เสมอ เสริมกับการหมั่นจุดเทียนเองด้วย ดวงชะตาจะสูงขึ้น ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ชีวิตรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง สำเร็จ สมปรารถนา หมดเคราะห์ ลดกำลังวิบากกรรม เปิดดวง รับโชคดี มีโชคลาภวาสนาได้ทันตาทันใจ !!
▬▬▬▬▬▬▬▬


“เมื่อบุญถึง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่มีอำนาจใดมาขวางทางบุญได้”






วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

10 ข้อที่ห้ามขอตอนไหว้พระ!! นี่ทำผิดมาตลอดชีวิตเลยหรอเนี่ย! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!



รู้หรือไม่!! การไหว้พระขอพร ห้ามขอ 10 สิ่งต่อไปนี้ เพราะไม่เป็นมงคล จะไม่ดีต่อตนเอง

1.ไม่ขอ…ให้ไร้โรคภัย
ไม่มีทางเป็นไปได้ กายสังขารประกอบด้วยธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อีกทั้ง หนี้บาปเวรกรรม จะให้ไร้โรคภัยเป็นไปไม่ได้ หากอาบน้ำมนต์ และสะเดาะเคราะห์ช่วยให้หายจากโรคภัย แล้วใยโรงพยาบาลจึงเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด

 2. ไม่ขอ…ให้การงานราบรื่น
เป็นไปไม่ได้ ความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน มากคนมากความ เราคิดอย่าง คนอื่นคิดอย่าง หากเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ยิ่งจะต้องเข้าใจว่า ไม่เจอ… “ปัญหา”… “ปัญญา…” จึงไม่บังเกิด”

3. ไม่ขอให้ใจสงบ
ใจอยู่กับเรา จะขอพระให้สงบได้อย่างไร? อยากให้ใจสงบต้องรู้”ปล่อยวาง” ด้วยตนเอง

4. ไม่ขอให้ตนเองได้ผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว
คนเราเกิดมาตามบุญทำกรรมแต่ง หากทุกคนขออย่างนี้แล้วพระก็ให้ มิใช่ว่าพระก็เลือกที่รักมักที่ชังดอกหรือ?
เบื้องบนทรงยุติธรรม ขอเพียงลงแรงลงใจทำ ผลเป็นอย่างไรจงน้อมยอมรับ

5. ไม่ขอให้ไร้มารผจญ
ผู้บำเพ็ญปฏิบัติ หากปราศจากมารทดสอบแล้ว จะสำเร็จ”พุทธะ” ได้อย่างไร?
ดังคำกล่าวที่ว่า “มารไม่มี บารมีไม่เกิด” เจอมารผจญครั้งหนึ่งก็เป็นการสร้างบารมีขั้นหนึ่ง

6. ไม่ขอให้ทุกสิ่งสมหวังดั่งใจ
คนบำเพ็ญ หากทำการใดก็ราบรื่นสมหวังดั่งใจ จะกลายเป็นอุปสรรคของ “การบำเพ็ญ” สมหวัง หรือ ผิดหวังทุกสิ่งอย่างมีเหตุต้นผลตาม

7. ไม่ขอชื่อเสียงลาภยศ
พระพุทธะพระโพธิสัตว์ล้วนละทิ้งชื่อเสียงลาภยศ ในเมื่อพระองค์เองยังไม่ทรงปรารถนา แล้วจะประทานสิ่งเหล่านี้ให้เราได้อย่างไร? คนที่ขอแล้วได้นั่น เป็นเพราะบุญเก่า แต่ชื่อเสียงลาภยศ ทำให้ผู้บำเพ็ญดี กับ ดีแตกก็มากมาย

8. ไม่ขอให้ใครทดแทนคุณ
ทำบุญแล้วหวังผลเป็นทางแห่งมิจฉา ทำบุญทำทานเพื่อทำนุบำรุงศาสนา เพื่อขจัดความตระหนี่ในจิตใจให้หมดไป เพื่อลบล้างหนี้บาปเวรกรรม

9. ไม่ขอให้เจอแต่ความยุติธรรม
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “กัมมุนา วัตตติ โลโก สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม” ถูกคนอื่นเอาเปรียบ ถูกคนอื่นใส่ร้าย ถูกคนอื่นรังแกฯ ก็เพราะเราคนทำกับเขาไว้ในอดีตชาติ ชาตินี้จึงต้องชดใช้คืนให้เขา
เจอความอยุติธรรมครั้งหนึ่ง ก็ชำระกันไปครั้งหนึ่ง เมื่อเผชิญกับความอยุติธรรม อย่าได้ปรักปรำโทษกล่าวหรือแช่งชักหักกระดูกฝ่ายตรงข้าม มิเช่นนั้น ก็จะผูกกันต่อไป ให้อโหสิกรรมต่อกัน กรรมส่วนนี้ย่อมคลายได้เอง

10. ไม่ขอให้ถูกหวยรวยแชร์
หากขอแล้วพระท่านให้ โลกนี้คงมีแต่คนร่ำรวย……
หากจะขอ จงขอให้ตน และผู้คนมีสติปัญญาในการแยกแยะถูกผิดดีชั่ว ขอให้มีความเมตตาต่อตนเอง และสรรพชีวิตอย่าได้เบียดเบียนต่อกันเลย ขอให้มีความหาญกล้าในการทำความดีเอาชนะจิตใจใฝ่ต่ำ ที่จะก่อกรรมชั่วให้ทั้งตนและผู้คนเดือดร้อน เช่นนี้จะดีกว่า 






ในช่วงชีวิตของคนนั้น ในห้วงแห่งความทุกข์แสนสาหัสที่กรรมฝ่ายไม่ดีกำลังส่งผล ที่เขาเรียกว่า “คนดวงตก” ที่มีหลายกรรมฝ่ายไม่ดีที่เคยทำเข้ามาส่งผลในชีวิตพร้อมๆ กัน

ดวงตกที่ว่ามาจากความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ทางโหรนั้นเรียกคนที่กำลังมีเรื่องราวไม่ดีที่ดึงให้ตกต่ำ ทำอะไรมักติดขัดหรือไม่สำเร็จ ประเภทจับอะไรเป็นเจ๊ง จับอะไรเป็นเรื่องทุกทีเขาว่า ดวงตกหรือดวงชะตาอ่อน

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” เพราะชีวิตในช่วงนั้นมันวุ่นวายอลหม่านพอสมควรไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หลายคน บางช่วงของชีวิต ปัญหางาน ปัญหาการเงิน ปัญหาชีวิต ปัญหาเพื่อน ก็ถั่งโถมเข้ามามากเหลือเกิน จนบางคนแทบทนไม่ไหว

เหตุที่ดวงตก

สาเหตุหลักนั้นมาจาก 2 เรื่อง ของมาจากรรมเก่าในอดีตและกรรมใหม่ที่ทำในชาตินี้ เป็นกรรมฝ่ายไม่ดี ที่มารวมกันในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนทำให้ทุกอย่างติดขัดไปหมดเสียทุกเรื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของกรรมเก่าในอดีตนั้น เราไม่มีทางทราบว่าเป็นกรรมอะไรบ้าง แต่ถึงไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็พอจะศึกษาด้วยกฎแห่งกรรมได้ เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ทำกรรมแบบนั้นขึ้นมาอีกในชาตินี้ เพราะกรรมเก่าจากอดีตบางกรรม กำลังส่งผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันบางกรรมก็รอที่จะส่งผลในอนาคตอันใกล้นี้

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรมหรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็ต้องทำให้ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกันอีก

เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง

หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ

อันชีวิตของเรานั้นมาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า เทพเจ้าองค์ใด ไม่ได้มาจากดวงดาว ดาวพระเคราะห์หรืออะไรเป็นผู้กำหนด การกระทำหรือกรรมของเราเองนั่นแหละเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น

ใครทำอะไรไว้เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับผลที่ทำเอาไว้ตามนั้น ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนผลลัพธ์ไปได้ ทำดีต้องได้ ทำชั่วต้องได้ชั่ว ผลต้องเป็นไปตามนั้นปลูกหรือหว่านอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น ปลุกข้าวก็ต้องได้ข้าว ปลุกกล้วยก็ต้องได้กล้วย ไม่ใช่ปลุกกล้วยแล้วผลออกมาเป็นรวงข้าว มันเป็นไปไม่ได้

ที่เราเรียกว่า “ดวงตก” นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “วิบากกรรมไม่ดีเข้า” มากกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผลของกรรมไม่ดีที่ทำมากำลังส่งผล อาจจะมีหลายๆ กรรมมาพร้อมๆ กัน อาจจะหนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ทำให้ชีวิตวุ่นวายพอสมควร

เป็นช่วงที่ผลของบุญที่เคยทำมานั้นอาจจะส่งผลน้อยมากหรือกำลังไม่พอกับกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผล ทำให้มีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข คนเรานั้นยิ่งทุกข์อยู่แล้ว มีเรื่องทุกข์เข้ามาเพิ่มแม้จะน้อยนิดเบาเท่าขนนุ่นหรือขนนก ถ้าขาดสติ ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีการแก้ไขอาจทำให้ชีวิตนั้นพังทลายได้เหมือนกัน

นอกจากกรรมเก่าที่เราไม่รู้แล้วยังมีกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราทำ ที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วหรือเจตนาหรือไม่เจตนาแต่ผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น ให้เงินคนกินเหล้า เราอาจจะไม่ตั้งใจหรือทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่แต่ก็ให้ไป คนที่ได้เงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน พอเมามายเต็มที่ไปก่อคดีขึ้นมา ก่อกรรมขึ้นมาเพราะเหล้าที่มาจากเงินของเรา ถ้าไม่มีเงินของเราที่ให้ไปเขาก็ไม่มีเงินไปซื้อเหล้ามากินแล้วก่อกรรมขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าเรามีส่วนในกรรมนั้นแน่นอน

หรือเป็นคนขับรถพาคนไปทำแท้ง คนแนะนำสถานที่ให้คนไปทำแท้งหรือพูดจาส่งเดช แบบคนเขาทุกข์มาปรึกษาก็พูดส่งๆ ไปว่า เลี้ยงไม่ไหวก็ไปทำแท้งเสียดีกว่า แล้วเขาก็ไปทำแท้งจริงๆ คนที่พูดนี่ก่อกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนชีวิตนั้นต้องทนทุกข์ทรมานทำอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะมีส่วนร่วมในกรรมนี้ ในการฆ่าคนตาย ร่วมฆ่าเด็กตายโดยไม่เจตนา

แม้แต่การกระทำหรือกรรมในชาตินี้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก็ยังทำ เช่น เป็นคนขี้เกียจ จับจดทำอะไรก็ไม่เอาจริง คิดแต่คอยคดโกงคนอื่น หรือพูดจาโกหกพกลมไปวันๆ พอมีความจำเป็นไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาก็จะช่วยเพราะเป็นคนแบบนั้น ทำกรรมขึ้นมาเองหรือเป็นคนที่ทำให้ตัวเองดวงตกด้วยมือ ด้วยการกระทำของตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครเขาไปทำให้

หลายเมื่อชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จจับอะไรเป็นพัง ค้าขายอะไรเป็นเจ๊ง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น ไปโทษเจ้ากรรมนายเวร โทษฟ้าโทษดิน ควรจะโทษตัวเองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำมาเสียก่อน

สำรวจตนเองว่าทำกรรมดีอะไรมาบ้างในชีวิต ถ้าคิดว่ายังน้อยก็จงรีบทำให้มากเสีย บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริงทั้งสร้างใจให้เป็นสุข หนุนนำชีวิตให้ดีขึ้นและเป็นเสบียงไปเลี้ยงตัวในภพชาติต่อไป

กรรมไม่ดีหรือกรรมชั่วนั้นต้องลด ละ เลิกเสียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรไม่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นแม้เพียงน้อยนิดก็ถือว่าเป็นกรรมไม่ดี ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่าใด เมื่อถึงเวลาส่งผลเราอาจจะรับมือไม่ไหว

ขอให้เชื่อและมั่นใจเถิดว่า การทำกรรมดีหมั่นสร้างบุญกุศลนั้น ช่วยได้จริงสำหรับคนที่ดวงตก ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงทั้งแบบช่วยเหลือเร่งด่วนและแบบถาวร บุญนั้นจะช่วยคลายทุกข์จากหนักให้เป็นเบาหรือเบาให้หายไปได้

กรรมชั่วนั้นเหมือนกับยาพิษ ถ้าเรากินเข้าไปทันทีเราอาจจะตายได้ถ้าเราเอายาพิษนั้นไปใส่ไว้ในตุ่มแล้วเอาน้ำสะอาดใส่เข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยาพิษนั้นก็เจือจางจนแทบไม่มีผลอะไรอีกแล้ว กรรมดีนั้นเหมือนน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่เราเติมเข้าไปในตุ่ม ที่ยิ่งมีมากเท่าใด ยาพาหรือกรรมชั่วนั้นก็แทบไม่มีพิษสงอะไรอีก

กรรมที่ติดตามเรามานั้นเหมือนหมาไล่เนื้อ เมื่อมันวิ่งทันเหยื่อหรือตัวเราเมื่อใดมันจะกัดกินทันที ยิ่งเมื่อเหยื่ออ่อนแรงหรือบุญนั้นน้อยไม่มีกำลังพอ มันก็วิ่งมาทันและมากัดกินได้ง่ายดาย แต่ถ้าเหยื่อนั้นมีกำลังหรือมีบุญมากกว่า มีแรงวิ่งแบบไม่หยุดและเร็ว หมาไล่เนื้อมันก็วิ่งตามไม่ทัน

แต่ถ้าเหยื่อนั้นประมาทหรือหลงทางคือ ทำกรรมชั่วมากขึ้นไปอีกยิ่งไปตัดทอนกำลังที่จะวิ่งหนีหรือถึงขั้นวิ่งมาหมาไล่เนื้อเอง ชีวิตของเหยื่อคงต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและเร็วขึ้นแน่นอนอุปมาทั้ง 2 เรื่องที่ยกมานั้นคือเรื่องของกรรมดีและกรรมชั่วโดยเฉพาะ

ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ถ้าเราทราบจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้วว่า เป็นเพราะกรรมไม่ดีที่เราทำนั้นส่งผลก็จึงมีอยู่ 2 ทางที่เร่งด่วนที่จะแก้ไข ก็คือ ลด ละ เลิกอย่าทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีกที่มาซ้ำเติมชีวิตของตนเอง และเร่งทำกรรมดีพาตัวเองให้รอดจากกรรมชั่วที่กำลังส่งผลนั้นเสีย

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดมาก หลายคนจึงยากที่จะเข้าใจว่ากรรมใดจะเกิดก่อนหรือเกิดทีหลัง เป็นเพราะความหนักเบา ที่ขึ้นอยู่กับวัตถุ ประโยคหรือความพยายามและเจตนา แต่ดูได้ง่ายๆ จากผลที่เกิดขึ้นนั้นดีหรือร้ายแรงกระทบออกไปเพียงใดทั้งต่อตนเอง ต่อคนอื่นและคนหมู่มากแค่ไหน

คนที่โกงเงินคนอื่นเพียงคนเดียว ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้นน้อยกว่าคนที่คดโกงเงินของชาติบ้านเมือง ที่มาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของคน 60 ล้านคน คนที่ก่อคดีเดียวย่อมได้รับโทษน้อยกว่าคนที่ก่อคดีมาเป็นสิบ เจ้าทุกข์หรือเจ้ากรรมนายเวรก็มากกว่า ผลที่ทำมาก็มากกว่าเช่นกัน

คนที่ฆ่าสัตว์แบบครั้งเดียวไม่เจตนาเช่น เดินเหยียบหอยทากตายกับคนที่ฆ่าช้างแบบเฝ้ากันเป็น 10 วัน 10 คืน กว่าจะฆ่ามันได้ต้องใช้ลูกปืนเป็นร้อยนัด สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้ช้าง ย่อมจะได้รับกรรมที่หนักกว่า

คนที่เพียรพยายามทำงานด้วยความสุจริต ทำกรรมดีมาเป็นเวลา 10-20 ปีหรือชั่วชีวิตย่อมได้รับผลจากที่ทำมาได้รับการนับถือยกย่องมากกว่าคนที่พยายามทำดีเพียงวัน 2 วัน

อันคนเรานั้นเวียนว่าย ตาย เกิดมานับไม่ถ้วนย่อมก่อกรรมทั้งดีและร้ายมามากมายเหลือคณานับ ลองคิดแค่ชาติเดียวที่เกิดมานี้ ลองนั่งทำใจให้นิ่ง นึกย้อนหลังไปก็จะพบว่าเรากระทำอะไรมามากมาย นี่แค่ชาติเดียว และถ้าหลายร้อยชาติ พันชาติ เราสร้างกรรม สร้างเจ้ากรรมนายเวรมามากมาย นึกเปรียบเทียบดูว่าเราไปยืมเงินคนมาสัก 10 คน เมื่อถึงวันหนึ่งเจ้าหนี้ทั้ง 10 คนเขามาทวงหนี้พร้อมๆ กันในวันเดียว แล้วเราจะทำอย่างไร

คนที่มีเงินกักตุนไว้หรือมีบุญกักตุนไว้เยอะก็คงพอจะรอดไปได้ แต่คนที่ไม่มีเงินหรือเงินน้อยหรือบุญน้อยจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลาที่เขามาทวงพร้อมกันนั่นแหละที่เขาเรียกกันจนชินปากว่า”ดวงตก” เพราะเป็นช่วงที่แย่สุดสุด เป็นช่วงที่ทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมใหม่เขามายืนทวงพร้อมกัน ชีวิตของเราคงแย่แน่นอน

ลองพิจารณาดูถ้าเห็นว่าดีกับชีวิตจึงค่อยทำ แต่ถ้าไม่เชื่อและไม่คิดว่ามันจะดีกับชีวิตก็ขอให้อย่าทำ ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปเสีย



ชีวิตล้มเหลวติดขัดทุกข์ใจ ตกอับโชคร้าย หนี้สินรุมเร้าปัญหาชีวิตรุนแรง ทำกินไม่ขึ้น ได้เงินเท่าไหร่ก็มีเหตุต้องเสียไปตลอด เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ โชคลาภไม่เคยมี ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ไม่รวยเสียที มีแต่เจ๊งกับเจ๊า!!! ความรักไม่เป็นรองเขาก็มีมือที่สามสี่ห้า คนรอบข้างไม่รักไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจพึ่งพาใครไม่ได้
- - - - - - - - - - - - - -
หากทำมาแล้วทุกอย่างชีวิตไม่เคยดีขึ้น ให้จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เทียนสืบชะตาล้านนา จุดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง หนุนชะตาดู เป็นศาสตร์วิชาศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา ที่ครูบาอาจารย์สร้างเอาไว้ช่วยเหลือคนดวงตก วิบากกรรมไล่ล่ารุนแรง ชีวิตตกต่ำทำมาหากินไม่ขึ้น การเงินวิกฤต หนี้สินล้นตัว


เมื่อเจ้าชะตาได้จุดจุดบริกรรมบูชาเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เสริมบุญหนุนดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ขอขมากรรมไปแล้ว พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว และดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น เกิดเมตตาสง่าราศี ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยดี ชีวิตจะกลับมาสว่าง ลืมหู ลืมตาได้อีกครั้ง เป็นการเสริมดวง หนุนชะตาชีวิต ให้หลบหลีกเคราะห์ พ้นโชคร้าย เปิดดวง รับโชคดี รับโชคลาภวาสนา ให้จุดสร้างบุญเสริมบารมีติดต่อกัน 9 วัน จุดวันละ 1 เล่ม ควบคู่ไปกับการสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ  ก็จะได้รับโชคดี จะมีโชคลาภ ความสำเร็จสมประสงค์ ดังปรากฎให้เห็นมาแล้ว มากมาย

ผู้ใดที่มีโอกาสได้จุดบูชา ล้วนได้พบอัศจรรย์ชีวิต พลานุภาพแห่งเทียนป๋าระมี๓๐ทัศนี้เป็นสิ่งรู้เฉพาะตน รู้ได้ก็เฉพาะผู้ทึได้จุดบูชาเท่านั้น!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬

💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

ยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศนี้..เป็นวิชาที่พระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วอาราทนาก่อนออกทำการ "ยุทธหัตถี" กับมหาอุปราชา จนทำให้ทรงมีชัยชนะ ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ สมัยโบราณ ตีราคาพระยันต์นี้เท่ากับค่าควรเมืองเลยทีเดียว จึงเรียกยันต์เทียนนี้ว่ายันต์เทียนพิชัยครามแห่งการชนะศึก ศัตรูแพ้พ่าย ด้วยมหาอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนบารมี๓๐ทัศจุดบูชาดวงชะตา ลดเคราะห์-สะเดาะวิบากกรรม ขอขมากรรม พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว อำนาจแห่งบุญและอโหสิกรรมจะยกดวงชะตาให้สูงขึ้น เหนือดวงชะตาเดิม เกิดเมตตามหานิยม อำนาจบารมี มีสง่า มีราศี พาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ให้พ้นผ่านไปด้วยดี แคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ค้ำคูณหนุนดวงชะตาราศี ชีวิตจะกลับมาสว่าง รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ อีกครั้ง อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ จะเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ บารมี ให้เป็นที่รักใคร่เมตตาต่อมนุษย์และเทวดา ปัดเป่าสรรพเคราะห์ทั้งหลายให้หายไปจากตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่งชีวิตมั่นคง โชคลาภความโชคดีจะไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาด จะเหนือคนเหนือใครเหนือดวง ศัตรูแพ้พ่าย บริวารและมิตรไม่คิดคดทรยศ ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครทำ ชีวิตก็จะดีขึ้นเหนือดวงชะตาได้อย่างอัศจรรย์!!!

( 1คาบมี 9 เล่ม หมั่นจุดจะยกดวงชะตาให้เหนือกว่าดวงชะตาเดิม )
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ 1 คาบมี 9 เล่ม
จุดติดต่อกันวันละ 1 เล่ม ติดต่อกัน 9 วัน

❅ ไส้เทียนฟั่นจากสายสินญ์ปลุกเสกแช่น้ำส้มป่อยล้างคุณไสยสิ่งอัปมงคลทั้งปวง พันล้อมด้วยยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศ มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์จารล้อม ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แห่งดวงชะตาเจ้าของเทียนแบบเฉพาะตัวบุคคล

❅ สีเทียนล้อมมหายันต์ด้วยขี้ผึ้งแท้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกฟั่นเทียนปลุกเสกบริกรรมเวทย์คาถาปัดเคราะห์ หนุนดวง เสริมชะตา เล่ม-ต่อ-เล่ม ตามโบราณพิธีครบสูตร -

▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 มีเรื่องเล่าว่า...ครั้งหนึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัย เดินธุดงค์แถบภาคเหนือ ขณะที่ท่านเดินผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง ท่านได้สังเกตุเห็นกระท่อมที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ก็เหลือชายคาอีกบางส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟ ท่านแปลกใจ จึงเดินไปดู ก็ได้เห็นหนังสือใบลาน เป็นคาถาบารมี ๙ ชั้น อยู่ฉบับหนึ่ง เหน็บอยู่ที่ชายคา เขียนเป็นภาษล้านนา(ตั๋วเมือง) ซึ่งเป็นคำไหว้บารมี ๓๐ ทัศนั่นเอง
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 " เทียนป๋ารามี๓๐ทัศ "ทุกเล่ม ครูบาอาจารย์ตั้งใจกำหนดจิต สร้างให้มีฤทธิ์ มีอิทธิคุณคุ้มครองแคล้วคลาดหลีกเคราะห์อย่างวิเศษ ผู้จุดบูชาก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อมั่น ศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ก็จะนำมาซึ่งปาฎิหาริย์ต่อชีวิตอันประมาณมิได้เลย ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนานี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครหมั่นจุด ชีวิตก็จะดีขึ้นจะรุ่งโรจน์เหนือดวงชะตาเดิมได้อย่างอัศจรรย์!!!
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

เจ้าชะตาบูชาเทียนไปจุดด้วยตนเองที่บ้าน 1 คาบมีเทียน 9 เล่ม จุดติดต่อกัน 9 วันๆละ 1 เล่ม

หรือขอบารมีพระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตาตามมนต์พิธีโบราณแห่งล้านนาเสริมให้เจ้าชะตา...

พระอาจารย์จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ สืบชะตาสะเดาะเคราะห์ เดือนละ 2ครั้ง

1.ฤกษ์ปุรณมีจันทร์เพ็ญเต็มดวง เสริมดวงเสริมบุญบารมี ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ชีวิตมั่งคั่ง มั่นคง (วันขอพร อำนาจ ความสำเร็จ ความสมบูรณ์เป็นเลิศ ความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ไม่สิ้นสุด )

2. ฤกษ์อมาวสี new moon เริ่มต้นรอบใหม่แห่งจันทรา เปิดรับสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิต ดับเคราะห์ดับภัย เปิดดวง รับโชคลาภ มีโชคดี (วันขอเงินขอโชคลาภพระจันทร์)

หมั่นพึ่งบุญบารมีให้พระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตา สะเดาะเคราะห์ เสริมบุญหนุนดวง รับโชคดีมีโชคลาภให้เสมอ เสริมกับการหมั่นจุดเทียนเองด้วย ดวงชะตาจะสูงขึ้น ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ชีวิตรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง สำเร็จ สมปรารถนา หมดเคราะห์ ลดกำลังวิบากกรรม เปิดดวง รับโชคดี มีโชคลาภวาสนาได้ทันตาทันใจ !!
▬▬▬▬▬▬▬▬


“เมื่อบุญถึง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่มีอำนาจใดมาขวางทางบุญได้”