วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หมั่นบูชาเทวดาประจำตัว ท่านจะคอยอวยพรให้เราพบกับสิ่งที่ดีดีในชีวิตช่วยปกป้องดูแล




คนบางคนนั้น เวลาที่อยู่ในช่วงที่วิบากกรรมไม่ดีนั้นส่งผล ก็จะรู้สึกว่าตนเองนั้นพบกับความเดือดร้อน
หรือต้องเจอกับเคราะห์กรรมใดๆ ที่หนักและรุนแรงน้อยบ้างหนักบ้าง แตกต่างกันตามที่การกระทำที่ทำมา
แต่มีหลายครั้งที่ ดูเหมือนจะไม่รอดแน่ แต่ทำไมถึงรอด และผ่านเคราะห์กรรมนั้นมาได้อย่างหวุดหวิด
หลายท่านเคยสงสัยในเรื่องนี้หรือไม่บางคนก็อาจจะรู้หรือนึกเอาว่า ต้องเป็นเพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หรือเทวดาประจำตัวคอยช่วยเหลือ หรือแม้แต่เวลาที่จะมีความสุขใดๆ ก็มักจะคิดว่า เป็นเพราะเทวดาประจำตัวของท่านนั้นบันดาลมาให้

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เพราะทุกคนนั้นมีเทวดาประจำตัวแน่นอน

แต่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเราต้องรู้ก่อนว่า เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นหรือเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นนั้น เหตุมาจากกรรมที่เราทำไม่ได้มาจากอำนาจของเทวดาแต่ประการใด
ถึงแม้ท่านจะมีความศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มีอำนาจก็จริง
แต่ท่านไม่มีหน้าที่จะมาเบี่ยงเบนกรรมของผู้ใดทั้งสิ้น

ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม

ไม่ว่าเทวดาหรือใครทั้งนั้น แม้แต่พระพุทธเจ้าของเรายังต้องยอมรับกรรมทั้งดีและไม่ดี จนพระพุทธองค์หลุดพ้นจากการเวียน ว่าย ตาย เกิดไปแล้ว
กรรมทั้งหมดจึงยุติเพราะไม่รู้ว่าจะไปส่งผลให้กับใคร

เทวดาท่านทำเพียง จะช่วยในการดลใจให้ทำดีหรือไม่ให้ทำความชั่ว หรือคอยอวยพรให้เราพบกับสิ่งที่ดีดีในชีวิตปกป้องดูแลไม่ให้ดวงวิญญาณอื่นมาทำร้ายเราโดยไม่มีเหตุผล

สำหรับเทวดาที่เราเข้าใจกันว่าเป็นเทวดาประจำตัวนั้นจริงๆ แล้ว ท่านไม่ได้อยู่คอยติดตามตัวเราหรือสิงอยู่ในตัวเราอย่างที่หลายคนๆ เข้าใจ

เพราะการเกิดเป็นเทวดาตามที่ได้กล่าวมานั้น
จะต้องบำเพ็ญบุญกุศลคุณงามความดีมากมายกว่าจะได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่เป็นสุขอย่างนั้น
แล้วลองนึกภาพตามดูว่าถ้าจะให้เทวดาเหล่านั้นท่านต้องมาคอยตามดูแลเป็นองครักษ์คอยพิทักษ์ปกปักรักษาคนที่เป็นมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ก็คงจะเป็นไปไม่ได้

เพราะตัวท่านเองก็ต้องเร่งสร้างบุญบารมีและมีกิจหน้าที่เหมือนกันเพื่อที่จะเลื่อนขั้นไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า อย่างที่บอกแล้วว่าเทวดาท่านก็ต้องมีหน้าที่คือ
เทวดาบางองค์ท่านต้องมีหน้าที่ไปเฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปเฝ้าวัด เฝ้าพระพุทธรูป ศาลหลักเมือง
ไปคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรมและมีคุณงามความดีที่ต้องปกป้องรักษา หรือถ้าไม่มีหน้าที่
ท่านก็ต้องบำเพ็ญบุญบารมีไปหรืออาจะไปเที่ยวสวรรค์เล่นก็เป็นเรื่องของท่าน

และที่สำคัญภพภูมิของท่านหรือสวรรค์ของท่านนั้นอยู่สูงกว่ามนุษย์ครูบาอาจารย์หลายท่านกล่าวต้องกันว่า ร่างกายของมนุษย์นั้นเหม็นมาก เพราะกินสัตว์ทุกประเภทและทำผิดศีลมากมาย เทวดาที่มีบุญบริสุทธิ์นั้นไม่อยากเข้าใกล้ และอยู่กับคนที่เหม็นไม่ได้แน่นอนต้องอยู่ให้ห่างมากที่สุดเท่าที่จะมากได้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเทวดามาสิงในร่างกายคน

แต่หลายคนเชื่อว่า ยังไม่แน่ใจว่าเทวดาประจำตัวนั้นมีจริงหรือเปล่าขออย่าพึงปฏิเสธหรือยอมรับให้ยึดหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์เป็นที่ตั้ง
อย่าเพิ่งเชื่อในเรื่องใดๆ ขอให้พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ถ้าเราพูดกันถึงเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้
คนที่จะตอบเราได้ดีที่สุดก็คือ ตัวเราเอง ว่าเรามีความรู้สึกหรือเคยได้สัมผัสสิ่งแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่หาที่มาไม่เจอหรือเรื่องเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์นั้นยังพิสูจน์ไม่ได้

อย่าลืมนะว่า วิทยาศาสตร์นั้นเป็นแค่ศาสตร์ชนิดหนึ่งที่มีหลายศาสตร์มากมายทั่วโลก
ที่พยายามจะตอบปัญหาของธรรมชาติให้คนได้รู้ได้เข้าใจ ถึงที่ไปที่มาแต่มีเรื่องราวมากมายที่วิทยาศาสตร์นั้นยังตอบไม่ได้ หรือหาเหตุผลไม่ได้

แต่ทว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีอยู่จริง

ขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ในเรื่องของการทำสมาธิและพลังจิตนั้นที่ศาสนาพุทธได้ค้นพบและประกาศออกไปเพื่อความสุขจริงของมวลสรรพสัตว์ทั้งหลายกว่า 2,500 ปีถึงประโยชน์สุขมหาศาลที่คนที่ปฏิบัติแล้วจะได้รับทั้งทำให้มีจิตใจกล้าแกร่ง เกิดปัญญาแก้ทุกปัญหาได้ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รักษาและฟื้นฟูร่างกายที่เจ็บป่วยได้แบบที่พระอริยสงฆ์ท่านใช้รักษาตัวกันบ่อยเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง

เรื่องแบบนี้วิทยาศาสตร์เพิ่งจะมาค้นพบเมื่อร้อยกว่าปีนี้ที่ค้นพบว่าการทำสมาธิในขั้นที่ลึกแล้ว
จะทำให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้ช้าลงและดีขึ้น อีกทั้งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ หัวใจก็แข็งแรง เป็นต้น

และเรื่องการเกิดของสิ่งมีชีวิต พระพุทธเจ้าค้นพบมานานเป็นพันๆ ปีมีบรรจุอยู่ในพระไตรปิฎกเรื่องการเกิดของเหล่าสรรพสัตว์ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะมาค้นพบการเกิดของสัตว์ตัวเล็กๆ บางชนิด
เชื้อโรคต่างๆ เมื่อไม่กี่ปีนี่เอง เรื่องนี้จึงพอจะยืนยันได้อีกเรื่องว่า ในบางเรื่องที่เหนือความเข้าใจ
วิทยาศาสตร์ยังเข้าไปไม่ถึงแน่นอน

และการมีอยู่ของเทวดาที่อยู่คนละภพภูมิหรือคนละชั้น แล้วการลงมาช่วยเหลือมนุษย์นี่ก็มีความเป็นไปได้การช่วยเหลือกันข้ามภพข้ามชาตินั้น ที่สัตว์อีกชั้นหนึ่งไปช่วยสัตว์อีกชั้นหนึ่ง (เทวดา ดวงวิญญาณที่เราเรียกว่าผีมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน ต่างล้วนเป็นสัตว์ด้วยกันทั้งนั้น แตกต่างที่คำเรียกตามภพภูมิเท่านั้น)

ก็เหมือนกับการที่เราเป็นมนุษย์อยู่แล้วไปช่วยสัตว์เดรัจฉานอย่างเช่น คนไปเก็บแมวหมาจรจัดมาเลี้ยง
การไปช่วยช้างเคราะห์ร้ายที่ตกบ่อให้ขึ้นมาจากหลุมหรือท่อระบายน้ำ
หรือการช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสัตว์หลายๆ ประเภทอย่างนี้เป็นต้น

คือแม้จะอยู่ภพชาติเดียวกันแต่เป็นการช่วยเหลือต่างภูมิกัน คือเราเป็นมนุษย์มีภูมิสูงกว่าสัตว์เดรัจฉานลงไปช่วยมัน
ซึ่งสัตว์เดรัจฉานเหล่านั้นอาจจะไม่รู้เลยก็ได้ว่านี่เป็นฝีมือของมนุษย์ที่มาคอยช่วยเหลือ

เหล่าเทวดาก็เช่นเดียวกันครับ ท่านอยู่ในภพภูมิที่ทั้งแตกต่างและอยู่สูงกว่า
อาจจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับมนุษย์ได้ เทวดาท่านก็มีสังคมของท่านเหมือนกัน
ในบางชั้นสวรรค์ มีทั้งเพื่อน มีสามีภรรยา มีเจ้านาย มีบริวารที่มีความรักผูกพันกัน

เหล่าญาติหรือคนรู้จักของท่านอาจจะจุติมาเกิดในโลกมนุษย์ รวมถึงความห่วงใยในญาติ
ที่ครั้งหนึ่งที่ท่านเคยเกิดมาเป็นคนก่อนที่จะมาเป็นเทวดา

เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็ยังมีกิเลสมีความห่วงหาอาทรเหมือนกับคนเรา อาจคอยดูแลสอดส่องทุกข์สุข
โดยการรับรู้ด้วยความเป็นทิพย์เพราะท่านมีหูทิพย์ ตาทิพย์หรือความรู้สึกอันเป็นทิพย์
เทวดาท่านก็จะรู้ขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครมาบอกว่า เกิดเรื่องร้ายแรงหรือมีเหตุการณ์ใดๆ
เกิดขึ้นกับญาติมิตรที่รักของท่าน

เทวดาท่านมีแต่กายทิพย์ไม่มีกายเนื้ออย่างคนเรา การให้ความช่วยเหลือของท่านส่วนใหญ่
จะเป็นการ “ดลจิตดลใจ” หรือโน้มน้าวให้ญาติมิตรเหล่านั้นให้เปลี่ยนจิตที่เป็นอกุศล
ที่กำลังจะตกไปอยู่ในอบายภูมิให้กลับกลายเป็นจิตกุศลและมีความสุขขึ้นได้ เช่นหากญาติมิตรที่กำลังโกรธจัดเพราะเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งท่านก็แผ่เมตตาส่งบุญกุศลลงมาดลจิตใจให้สงบเยือกเย็นลง

เคยหรือเปล่าที่เวลาที่กำลังโกรธใครหรือกำลังร้อนใจอะไรอยู่กับสิ่งนั้นมากๆ
จู่ๆ ก็รู้สึกเยือกเย็นลง ได้อย่างน่าประหลาดเช่นเมื่อได้ก้าวเข้าไปสู่สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
อย่างเช่นในวัดวาอารามใหญ่ๆ พอเข้าไปแล้ว รู้สึกได้ถึงกระแสความอบอุ่นสว่างไสว

ทำให้จิตที่กำลังขุ่นข้องหมองใจนั้นก็กลับสงบเยือกเย็นลงเป็นลำดับซึ่งเป็นเพราะเทวดาที่อยู่ในบริเวณที่แห่งนั้นได้แผ่เมตตาลงมาให้ทำให้รู้สึกสงบเย็นลง
และค้นพบวิธีการแก้ปัญหาหรือพบกับคนที่จะช่วยเหลือให้รอดพ้นไปได้จากปัญหาเหล่านั้น

 เรื่องเหล่านี้เป็นการดลใจของเทวดาแน่นอน ทั้งดลใจเราและดลใจคนที่จะช่วยเราได้ ให้มีความเมตตามีความพร้อมในเรื่องที่จะช่วยมาเจอกัน เรื่องนี้ขอให้ไปดูเรื่องของเชื่อมบุญที่อยู่ในบทต่อไป
จะเข้าใจทันทีว่าทำไมต้องเชื่อมบุญกับเทวดา

การดลใจของเหล่าเทวดาก็ยังมีหลายระดับขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของเทวดาเองและก็กิเลสที่อยู่ในตัวคนๆนั้นด้วยหากเป็นคนมีกิเลสหนาโทสะมากๆ ถูกความมืดในจิตครอบงำเสียเต็มแน่นทำให้เห็นผิดได้อย่างรุนแรงอย่างนี้เทวดาก็ไม่อาจดลใจช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกันดุจดังความดีหรือแสงสว่าง
จะไม่สามารถแทรกลงไปกรรมชั่วหรือความมืดมิดได้





ในช่วงชีวิตของคนนั้น ในห้วงแห่งความทุกข์แสนสาหัสที่กรรมฝ่ายไม่ดีกำลังส่งผล ที่เขาเรียกว่า “คนดวงตก” ที่มีหลายกรรมฝ่ายไม่ดีที่เคยทำเข้ามาส่งผลในชีวิตพร้อมๆ กัน

ดวงตกที่ว่ามาจากความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ทางโหรนั้นเรียกคนที่กำลังมีเรื่องราวไม่ดีที่ดึงให้ตกต่ำ ทำอะไรมักติดขัดหรือไม่สำเร็จ ประเภทจับอะไรเป็นเจ๊ง จับอะไรเป็นเรื่องทุกทีเขาว่า ดวงตกหรือดวงชะตาอ่อน

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” เพราะชีวิตในช่วงนั้นมันวุ่นวายอลหม่านพอสมควรไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หลายคน บางช่วงของชีวิต ปัญหางาน ปัญหาการเงิน ปัญหาชีวิต ปัญหาเพื่อน ก็ถั่งโถมเข้ามามากเหลือเกิน จนบางคนแทบทนไม่ไหว

เหตุที่ดวงตก

สาเหตุหลักนั้นมาจาก 2 เรื่อง ของมาจากรรมเก่าในอดีตและกรรมใหม่ที่ทำในชาตินี้ เป็นกรรมฝ่ายไม่ดี ที่มารวมกันในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนทำให้ทุกอย่างติดขัดไปหมดเสียทุกเรื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของกรรมเก่าในอดีตนั้น เราไม่มีทางทราบว่าเป็นกรรมอะไรบ้าง แต่ถึงไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็พอจะศึกษาด้วยกฎแห่งกรรมได้ เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ทำกรรมแบบนั้นขึ้นมาอีกในชาตินี้ เพราะกรรมเก่าจากอดีตบางกรรม กำลังส่งผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันบางกรรมก็รอที่จะส่งผลในอนาคตอันใกล้นี้

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรมหรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็ต้องทำให้ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกันอีก

เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง

หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ

อันชีวิตของเรานั้นมาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า เทพเจ้าองค์ใด ไม่ได้มาจากดวงดาว ดาวพระเคราะห์หรืออะไรเป็นผู้กำหนด การกระทำหรือกรรมของเราเองนั่นแหละเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น

ใครทำอะไรไว้เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับผลที่ทำเอาไว้ตามนั้น ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนผลลัพธ์ไปได้ ทำดีต้องได้ ทำชั่วต้องได้ชั่ว ผลต้องเป็นไปตามนั้นปลูกหรือหว่านอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น ปลุกข้าวก็ต้องได้ข้าว ปลุกกล้วยก็ต้องได้กล้วย ไม่ใช่ปลุกกล้วยแล้วผลออกมาเป็นรวงข้าว มันเป็นไปไม่ได้

ที่เราเรียกว่า “ดวงตก” นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “วิบากกรรมไม่ดีเข้า” มากกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผลของกรรมไม่ดีที่ทำมากำลังส่งผล อาจจะมีหลายๆ กรรมมาพร้อมๆ กัน อาจจะหนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ทำให้ชีวิตวุ่นวายพอสมควร

เป็นช่วงที่ผลของบุญที่เคยทำมานั้นอาจจะส่งผลน้อยมากหรือกำลังไม่พอกับกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผล ทำให้มีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข คนเรานั้นยิ่งทุกข์อยู่แล้ว มีเรื่องทุกข์เข้ามาเพิ่มแม้จะน้อยนิดเบาเท่าขนนุ่นหรือขนนก ถ้าขาดสติ ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีการแก้ไขอาจทำให้ชีวิตนั้นพังทลายได้เหมือนกัน

นอกจากกรรมเก่าที่เราไม่รู้แล้วยังมีกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราทำ ที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วหรือเจตนาหรือไม่เจตนาแต่ผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น ให้เงินคนกินเหล้า เราอาจจะไม่ตั้งใจหรือทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่แต่ก็ให้ไป คนที่ได้เงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน พอเมามายเต็มที่ไปก่อคดีขึ้นมา ก่อกรรมขึ้นมาเพราะเหล้าที่มาจากเงินของเรา ถ้าไม่มีเงินของเราที่ให้ไปเขาก็ไม่มีเงินไปซื้อเหล้ามากินแล้วก่อกรรมขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าเรามีส่วนในกรรมนั้นแน่นอน

หรือเป็นคนขับรถพาคนไปทำแท้ง คนแนะนำสถานที่ให้คนไปทำแท้งหรือพูดจาส่งเดช แบบคนเขาทุกข์มาปรึกษาก็พูดส่งๆ ไปว่า เลี้ยงไม่ไหวก็ไปทำแท้งเสียดีกว่า แล้วเขาก็ไปทำแท้งจริงๆ คนที่พูดนี่ก่อกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนชีวิตนั้นต้องทนทุกข์ทรมานทำอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะมีส่วนร่วมในกรรมนี้ ในการฆ่าคนตาย ร่วมฆ่าเด็กตายโดยไม่เจตนา

แม้แต่การกระทำหรือกรรมในชาตินี้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก็ยังทำ เช่น เป็นคนขี้เกียจ จับจดทำอะไรก็ไม่เอาจริง คิดแต่คอยคดโกงคนอื่น หรือพูดจาโกหกพกลมไปวันๆ พอมีความจำเป็นไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาก็จะช่วยเพราะเป็นคนแบบนั้น ทำกรรมขึ้นมาเองหรือเป็นคนที่ทำให้ตัวเองดวงตกด้วยมือ ด้วยการกระทำของตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครเขาไปทำให้

หลายเมื่อชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จจับอะไรเป็นพัง ค้าขายอะไรเป็นเจ๊ง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น ไปโทษเจ้ากรรมนายเวร โทษฟ้าโทษดิน ควรจะโทษตัวเองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำมาเสียก่อน

สำรวจตนเองว่าทำกรรมดีอะไรมาบ้างในชีวิต ถ้าคิดว่ายังน้อยก็จงรีบทำให้มากเสีย บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริงทั้งสร้างใจให้เป็นสุข หนุนนำชีวิตให้ดีขึ้นและเป็นเสบียงไปเลี้ยงตัวในภพชาติต่อไป

กรรมไม่ดีหรือกรรมชั่วนั้นต้องลด ละ เลิกเสียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรไม่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นแม้เพียงน้อยนิดก็ถือว่าเป็นกรรมไม่ดี ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่าใด เมื่อถึงเวลาส่งผลเราอาจจะรับมือไม่ไหว

ขอให้เชื่อและมั่นใจเถิดว่า การทำกรรมดีหมั่นสร้างบุญกุศลนั้น ช่วยได้จริงสำหรับคนที่ดวงตก ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงทั้งแบบช่วยเหลือเร่งด่วนและแบบถาวร บุญนั้นจะช่วยคลายทุกข์จากหนักให้เป็นเบาหรือเบาให้หายไปได้

กรรมชั่วนั้นเหมือนกับยาพิษ ถ้าเรากินเข้าไปทันทีเราอาจจะตายได้ถ้าเราเอายาพิษนั้นไปใส่ไว้ในตุ่มแล้วเอาน้ำสะอาดใส่เข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยาพิษนั้นก็เจือจางจนแทบไม่มีผลอะไรอีกแล้ว กรรมดีนั้นเหมือนน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่เราเติมเข้าไปในตุ่ม ที่ยิ่งมีมากเท่าใด ยาพาหรือกรรมชั่วนั้นก็แทบไม่มีพิษสงอะไรอีก

กรรมที่ติดตามเรามานั้นเหมือนหมาไล่เนื้อ เมื่อมันวิ่งทันเหยื่อหรือตัวเราเมื่อใดมันจะกัดกินทันที ยิ่งเมื่อเหยื่ออ่อนแรงหรือบุญนั้นน้อยไม่มีกำลังพอ มันก็วิ่งมาทันและมากัดกินได้ง่ายดาย แต่ถ้าเหยื่อนั้นมีกำลังหรือมีบุญมากกว่า มีแรงวิ่งแบบไม่หยุดและเร็ว หมาไล่เนื้อมันก็วิ่งตามไม่ทัน

แต่ถ้าเหยื่อนั้นประมาทหรือหลงทางคือ ทำกรรมชั่วมากขึ้นไปอีกยิ่งไปตัดทอนกำลังที่จะวิ่งหนีหรือถึงขั้นวิ่งมาหมาไล่เนื้อเอง ชีวิตของเหยื่อคงต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและเร็วขึ้นแน่นอนอุปมาทั้ง 2 เรื่องที่ยกมานั้นคือเรื่องของกรรมดีและกรรมชั่วโดยเฉพาะ

ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ถ้าเราทราบจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้วว่า เป็นเพราะกรรมไม่ดีที่เราทำนั้นส่งผลก็จึงมีอยู่ 2 ทางที่เร่งด่วนที่จะแก้ไข ก็คือ ลด ละ เลิกอย่าทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีกที่มาซ้ำเติมชีวิตของตนเอง และเร่งทำกรรมดีพาตัวเองให้รอดจากกรรมชั่วที่กำลังส่งผลนั้นเสีย

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดมาก หลายคนจึงยากที่จะเข้าใจว่ากรรมใดจะเกิดก่อนหรือเกิดทีหลัง เป็นเพราะความหนักเบา ที่ขึ้นอยู่กับวัตถุ ประโยคหรือความพยายามและเจตนา แต่ดูได้ง่ายๆ จากผลที่เกิดขึ้นนั้นดีหรือร้ายแรงกระทบออกไปเพียงใดทั้งต่อตนเอง ต่อคนอื่นและคนหมู่มากแค่ไหน

คนที่โกงเงินคนอื่นเพียงคนเดียว ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้นน้อยกว่าคนที่คดโกงเงินของชาติบ้านเมือง ที่มาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของคน 60 ล้านคน คนที่ก่อคดีเดียวย่อมได้รับโทษน้อยกว่าคนที่ก่อคดีมาเป็นสิบ เจ้าทุกข์หรือเจ้ากรรมนายเวรก็มากกว่า ผลที่ทำมาก็มากกว่าเช่นกัน

คนที่ฆ่าสัตว์แบบครั้งเดียวไม่เจตนาเช่น เดินเหยียบหอยทากตายกับคนที่ฆ่าช้างแบบเฝ้ากันเป็น 10 วัน 10 คืน กว่าจะฆ่ามันได้ต้องใช้ลูกปืนเป็นร้อยนัด สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้ช้าง ย่อมจะได้รับกรรมที่หนักกว่า

คนที่เพียรพยายามทำงานด้วยความสุจริต ทำกรรมดีมาเป็นเวลา 10-20 ปีหรือชั่วชีวิตย่อมได้รับผลจากที่ทำมาได้รับการนับถือยกย่องมากกว่าคนที่พยายามทำดีเพียงวัน 2 วัน

อันคนเรานั้นเวียนว่าย ตาย เกิดมานับไม่ถ้วนย่อมก่อกรรมทั้งดีและร้ายมามากมายเหลือคณานับ ลองคิดแค่ชาติเดียวที่เกิดมานี้ ลองนั่งทำใจให้นิ่ง นึกย้อนหลังไปก็จะพบว่าเรากระทำอะไรมามากมาย นี่แค่ชาติเดียว และถ้าหลายร้อยชาติ พันชาติ เราสร้างกรรม สร้างเจ้ากรรมนายเวรมามากมาย นึกเปรียบเทียบดูว่าเราไปยืมเงินคนมาสัก 10 คน เมื่อถึงวันหนึ่งเจ้าหนี้ทั้ง 10 คนเขามาทวงหนี้พร้อมๆ กันในวันเดียว แล้วเราจะทำอย่างไร

คนที่มีเงินกักตุนไว้หรือมีบุญกักตุนไว้เยอะก็คงพอจะรอดไปได้ แต่คนที่ไม่มีเงินหรือเงินน้อยหรือบุญน้อยจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลาที่เขามาทวงพร้อมกันนั่นแหละที่เขาเรียกกันจนชินปากว่า”ดวงตก” เพราะเป็นช่วงที่แย่สุดสุด เป็นช่วงที่ทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมใหม่เขามายืนทวงพร้อมกัน ชีวิตของเราคงแย่แน่นอน

ลองพิจารณาดูถ้าเห็นว่าดีกับชีวิตจึงค่อยทำ แต่ถ้าไม่เชื่อและไม่คิดว่ามันจะดีกับชีวิตก็ขอให้อย่าทำ ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปเสีย



ชีวิตล้มเหลวติดขัดทุกข์ใจ ตกอับโชคร้าย หนี้สินรุมเร้าปัญหาชีวิตรุนแรง ทำกินไม่ขึ้น ได้เงินเท่าไหร่ก็มีเหตุต้องเสียไปตลอด เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ โชคลาภไม่เคยมี ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ไม่รวยเสียที มีแต่เจ๊งกับเจ๊า!!! ความรักไม่เป็นรองเขาก็มีมือที่สามสี่ห้า คนรอบข้างไม่รักไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจพึ่งพาใครไม่ได้
- - - - - - - - - - - - - -
หากทำมาแล้วทุกอย่างชีวิตไม่เคยดีขึ้น ให้จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เทียนสืบชะตาล้านนา จุดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง หนุนชะตาดู เป็นศาสตร์วิชาศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา ที่ครูบาอาจารย์สร้างเอาไว้ช่วยเหลือคนดวงตก วิบากกรรมไล่ล่ารุนแรง ชีวิตตกต่ำทำมาหากินไม่ขึ้น การเงินวิกฤต หนี้สินล้นตัว


เมื่อเจ้าชะตาได้จุดจุดบริกรรมบูชาเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เสริมบุญหนุนดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ขอขมากรรมไปแล้ว พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว และดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น เกิดเมตตาสง่าราศี ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยดี ชีวิตจะกลับมาสว่าง ลืมหู ลืมตาได้อีกครั้ง เป็นการเสริมดวง หนุนชะตาชีวิต ให้หลบหลีกเคราะห์ พ้นโชคร้าย เปิดดวง รับโชคดี รับโชคลาภวาสนา ให้จุดสร้างบุญเสริมบารมีติดต่อกัน 9 วัน จุดวันละ 1 เล่ม ควบคู่ไปกับการสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ  ก็จะได้รับโชคดี จะมีโชคลาภ ความสำเร็จสมประสงค์ ดังปรากฎให้เห็นมาแล้ว มากมาย

ผู้ใดที่มีโอกาสได้จุดบูชา ล้วนได้พบอัศจรรย์ชีวิต พลานุภาพแห่งเทียนป๋าระมี๓๐ทัศนี้เป็นสิ่งรู้เฉพาะตน รู้ได้ก็เฉพาะผู้ทึได้จุดบูชาเท่านั้น!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬

💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

ยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศนี้..เป็นวิชาที่พระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วอาราทนาก่อนออกทำการ "ยุทธหัตถี" กับมหาอุปราชา จนทำให้ทรงมีชัยชนะ ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ สมัยโบราณ ตีราคาพระยันต์นี้เท่ากับค่าควรเมืองเลยทีเดียว จึงเรียกยันต์เทียนนี้ว่ายันต์เทียนพิชัยครามแห่งการชนะศึก ศัตรูแพ้พ่าย ด้วยมหาอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนบารมี๓๐ทัศจุดบูชาดวงชะตา ลดเคราะห์-สะเดาะวิบากกรรม ขอขมากรรม พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว อำนาจแห่งบุญและอโหสิกรรมจะยกดวงชะตาให้สูงขึ้น เหนือดวงชะตาเดิม เกิดเมตตามหานิยม อำนาจบารมี มีสง่า มีราศี พาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ให้พ้นผ่านไปด้วยดี แคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ค้ำคูณหนุนดวงชะตาราศี ชีวิตจะกลับมาสว่าง รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ อีกครั้ง อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ จะเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ บารมี ให้เป็นที่รักใคร่เมตตาต่อมนุษย์และเทวดา ปัดเป่าสรรพเคราะห์ทั้งหลายให้หายไปจากตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่งชีวิตมั่นคง โชคลาภความโชคดีจะไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาด จะเหนือคนเหนือใครเหนือดวง ศัตรูแพ้พ่าย บริวารและมิตรไม่คิดคดทรยศ ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครทำ ชีวิตก็จะดีขึ้นเหนือดวงชะตาได้อย่างอัศจรรย์!!!

( 1คาบมี 9 เล่ม หมั่นจุดจะยกดวงชะตาให้เหนือกว่าดวงชะตาเดิม )
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ 1 คาบมี 9 เล่ม
จุดติดต่อกันวันละ 1 เล่ม ติดต่อกัน 9 วัน

❅ ไส้เทียนฟั่นจากสายสินญ์ปลุกเสกแช่น้ำส้มป่อยล้างคุณไสยสิ่งอัปมงคลทั้งปวง พันล้อมด้วยยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศ มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์จารล้อม ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แห่งดวงชะตาเจ้าของเทียนแบบเฉพาะตัวบุคคล

❅ สีเทียนล้อมมหายันต์ด้วยขี้ผึ้งแท้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกฟั่นเทียนปลุกเสกบริกรรมเวทย์คาถาปัดเคราะห์ หนุนดวง เสริมชะตา เล่ม-ต่อ-เล่ม ตามโบราณพิธีครบสูตร -

▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 มีเรื่องเล่าว่า...ครั้งหนึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัย เดินธุดงค์แถบภาคเหนือ ขณะที่ท่านเดินผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง ท่านได้สังเกตุเห็นกระท่อมที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ก็เหลือชายคาอีกบางส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟ ท่านแปลกใจ จึงเดินไปดู ก็ได้เห็นหนังสือใบลาน เป็นคาถาบารมี ๙ ชั้น อยู่ฉบับหนึ่ง เหน็บอยู่ที่ชายคา เขียนเป็นภาษล้านนา(ตั๋วเมือง) ซึ่งเป็นคำไหว้บารมี ๓๐ ทัศนั่นเอง
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 " เทียนป๋ารามี๓๐ทัศ "ทุกเล่ม ครูบาอาจารย์ตั้งใจกำหนดจิต สร้างให้มีฤทธิ์ มีอิทธิคุณคุ้มครองแคล้วคลาดหลีกเคราะห์อย่างวิเศษ ผู้จุดบูชาก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อมั่น ศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ก็จะนำมาซึ่งปาฎิหาริย์ต่อชีวิตอันประมาณมิได้เลย ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนานี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครหมั่นจุด ชีวิตก็จะดีขึ้นจะรุ่งโรจน์เหนือดวงชะตาเดิมได้อย่างอัศจรรย์!!!
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

เจ้าชะตาบูชาเทียนไปจุดด้วยตนเองที่บ้าน 1 คาบมีเทียน 9 เล่ม จุดติดต่อกัน 9 วันๆละ 1 เล่ม

หรือขอบารมีพระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตาตามมนต์พิธีโบราณแห่งล้านนาเสริมให้เจ้าชะตา...

พระอาจารย์จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ สืบชะตาสะเดาะเคราะห์ เดือนละ 2ครั้ง

1.ฤกษ์ปุรณมีจันทร์เพ็ญเต็มดวง เสริมดวงเสริมบุญบารมี ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ชีวิตมั่งคั่ง มั่นคง (วันขอพร อำนาจ ความสำเร็จ ความสมบูรณ์เป็นเลิศ ความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ไม่สิ้นสุด )

2. ฤกษ์อมาวสี new moon เริ่มต้นรอบใหม่แห่งจันทรา เปิดรับสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิต ดับเคราะห์ดับภัย เปิดดวง รับโชคลาภ มีโชคดี (วันขอเงินขอโชคลาภพระจันทร์)

หมั่นพึ่งบุญบารมีให้พระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตา สะเดาะเคราะห์ เสริมบุญหนุนดวง รับโชคดีมีโชคลาภให้เสมอ เสริมกับการหมั่นจุดเทียนเองด้วย ดวงชะตาจะสูงขึ้น ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ชีวิตรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง สำเร็จ สมปรารถนา หมดเคราะห์ ลดกำลังวิบากกรรม เปิดดวง รับโชคดี มีโชคลาภวาสนาได้ทันตาทันใจ !!
▬▬▬▬▬▬▬▬


“เมื่อบุญถึง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่มีอำนาจใดมาขวางทางบุญได้”






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น