วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คำอธิษฐานของเราจะไม่เป็นแต่เพียงความคิดลอยๆ เพียงฝันกลางวัน ถ้าทำแบบนี้ !!!



การตั้งจิตอธิษฐานต้องทำอย่างฉลาดจึงจะสำเร็จตามมโนปณิธานที่ตั้งไว้ นั่นคือการอธิษฐานที่ฉลาดต้องดำเนินตามขั้นตอนดังนี้ 

ขั้น แรก ในการอธิษฐานจิตทุกครั้งต้องมีการทำบุญเป็นฐานรองรับเสมอ คือ ทำบุญด้วยการสวดมนต์ ถวายทาน รักษา ศีล หรือเจริญจิตภาวนาแล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บำเพ็ญนี้ หรือด้วยอำนาจแห่งการกล่าวสัจวาจานี้ ขอให้สิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาจงสำเร็จโดยพลัน

ขั้นที่สอง ใน การอธิษฐานจิตนั้น  อย่าเลือกหลายเรื่องนัก   ท่านให้เลือกเรื่องที่สำคัญที่สุด  เวลาที่พระพุทธเจ้าของเราบำเพ็ญบารมีในอดีตเพื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านั้น  แต่ละชาติจะเน้นบารมีเพียงข้อเดียว  เช่นตอนที่เกิดเป็นพระเวสสันดร  ทรงเน้นเรื่องทานบารมีอย่างเดียว  ในตอนที่เกิดเป็นพระมหาชนก  ทรงเน้นเรื่องวิริยบารมีเป็นหลัก  ในตอนที่เกิดเป็นมโหสถบัณฑิต  ทรงเน้นปัญญาบารมีเป็นหลัก            ในปีใหม่นี้ เราจะอธิษฐานเน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ให้เลือกเฉพาะเรื่องนั้น เพื่อให้การอธิษฐานมีพลัง ท่านจึงเรียกว่าตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยการเลือกเรื่องที่จะทำเพียงเรื่องเดียว   เช่น เลิกบุหรี่ เลิกการพนัน  ลดน้ำหนัก หรือให้เวลาแก่ครอบครัว  ถ้าเราอธิษฐานมากเรื่องจนพล่าไปหมด อาจไม่สำเร็จสักเรื่องเดียว  ดังนั้นในขั้นตอนที่สองนี้ ให้เลือกอธิษฐานจิตเพียงข้อเดียว คือตั้งสัตยาธิษฐานนั่นเอง          ขั้นที่สาม  เมื่ออธิษฐานจิตแล้วให้คิดสร้างภาพแห่งความสำเร็จ  ท่านเรียกว่าจักขุมา  นึกเห็นภาพของสิ่งที่เราอยากมีอยากเป็น  สมมุติว่าอธิษฐานลดน้ำหนักให้เรามีสุขภาพแข็งแรง เราลองนึกวาดภาพตัวเราเองในใจว่า  ถ้ามีสุขภาพแข็งแรง หน้าตาเราจะเป็นอย่างไร  การนึกเห็นภาพที่ปรารถนาชัดเจนจะทำให้ความปรารถนาแรงกล้าพอที่จะกระตุ้นความ พยายาม            ข้อที่สี่ วิธุโร  แปลว่า จัดการให้สำเร็จตามที่เราสร้างภาพนั้น  นั่นคือต้องวางแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการแบ่งเป็นขั้นเป็นตอน  บางคนอธิษฐานไม่มีขั้นตอน เช่นอธิษฐานว่า ปีใหม่นี้ขอให้รวย  ไม่ได้บอกว่ารวยเพราะมีเงินเท่าไร การอธิษฐานควรมีขั้นตอนว่าเราจะมีเงินเท่าไรในเวลากี่เดือน ตอนกลางปี  เราจะมีเงินเก็บเท่านี้  ปลายปีจะมีเงินเก็บเท่านี้  เราจะได้ติดตามผลการอธิษฐานไปทีละ มิฉะนั้นเราจะไปไม่ถึงเป้าหมาย  เพราะเราสร้างภาพไกลเกินเอื้อม  บางทีเราจะท้อเสียก่อน  เหมือนกับการจะขึ้นบันไดหนึ่งร้อยขั้นเพื่อไปไหว้พระธาตุบนภูเขา เขาจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ  พอถึงยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง  เดินไปอีกยี่สิบขั้นก็มีที่พักตอนหนึ่ง  ไม่ใช่ขึ้นบันไดรวดเดียวเป็นร้อยขั้น   ไม่มีที่พักกลางทาง  คนจะขึ้นไปไม่ถึงพระธาตุ  ผู้ทำบันไดที่ฉลาดจะทำที่พักเป็นระยะ ๆ  ฉันใด ในการเดินทางไปสู่เป้าหมายก็ฉันนั้น คือต้องแบ่งซอยขั้นตอนในรายละเอียดเพื่อการประเมินผลว่าใกล้เป้าหมายเข้าไป เท่าใดแล้ว          
 ข้อที่ห้า   นิสัยสัมปันนะ  แปลว่ามีที่พึ่ง  คือเวลาตั้งจิตอธิษฐานควรมีคนอื่นเป็นสักขีพยาน เวลาที่พระสุเมธดาบสตั้งจิตอธิษฐาน ท่านก็มีพระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นสักขีพยาน บางคนหาใครไมได้ก็อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสักขีพยาน

ถ้า เราอธิษฐานเงียบๆ ในใจ เวลาที่เราล้มเลิกคำอธิษฐานจะไม่มีใครทัดทาน แต่ถ้าเราอธิษฐานแล้วบอกให้คนข้างเคียงได้รับรู้ด้วย  บางทีการปฏิบัติตามคำอธิษฐานจะง่ายขึ้นเพราะมีคนคอยกำกับ  เช่น เราอธิษฐานเรื่องลดน้ำหนักแล้วบอกให้แม่ครัวหรือพ่อครัวที่บ้านรับรู้  เวลาปรุงอาหารเขาจะได้ปรุงอาหารสุขภาพให้เรา  เวลาที่เราละเมิดคำอธิษฐาน เขาจะคอยเตือนเรา  การช่วยเตือนนี้แหละเป็นระบบกัลยาณมิตรที่มีคนอื่นเป็นที่พึ่ง  เหมือนการเดินทางไกลก็จะต้องมีเพื่อนร่วมทาง  การอธิษฐานเพื่อให้สำเร็จตามปรารถนาต้องมีเพื่อนร่วมอธิษฐาน  เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายคนเดียวอาจจะเหนื่อยและเบื่อง่าย  แต่ถ้ามีคนอธิษฐานร่วมกันไปออกกำลังกายด้วยกัน  ต่างจะช่วยกันกระตุ้นให้ออกกำลังกาย  สมาชิกในบ้านเดียวกันเช่น  พ่อ  แม่  ลูก  ควรจะอธิษฐานร่วมกันว่า  ปีใหม่นี้จะดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน  พ่อแม่จะดีต่อลูก  ลูกจะดีต่อพ่อแม่  สนับสนุนกันและกันให้ทำดีต่อกัน  นี่เรียกว่ามีคนอื่นเป็นที่พึ่งในการอธิษฐานจิต 

พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  จะเสด็จฯประพาสยุโรป ในปี ๒๔๔๐ พระองค์ทรงอธิษฐานต่อหน้ามหาสมาคม  ณ  พระที่นั่งไพศาลทักษิณ  ด้วยการประกาศให้ทราบทั่วกันต่อหน้าพระสงฆ์ เจ้านาย และเสนาบดีทั้งหลาย ว่า            
๑. ในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้  จะไม่น้อมใจไปในศาสดาอื่น  จะนับถือแต่พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์            
๒. ในการเดินทางไกลไปยุโรปซึ่งใช้เวลาหลายเดือน  จะไม่ร่วมประเวณีด้วยสตรีอื่นใดเลย            ๓. ในต่างประเทศ การให้สุราแล้วไม่ดื่ม จะเป็นการเสียกริยา ก็จะดื่มนิดหน่อยเพื่อสังคม  แต่ไม่ยอมมึนเมาเสียสติเด็จขาด

นี่คือตัวอย่างของการอธิษฐานเสียงดังเพื่อให้คนอื่นเป็นสักขีพยานและช่วย ประกันความสำเร็จของคำอธิษฐาน เพราะฉะนั้น  เรามาอธิษฐานร่วมกันให้คนอื่นได้ยินว่า ปีใหม่นี้เราจะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ร่วมกัน เราจะทำงานทุ่มเทให้กับหน่วยงานของเรา  เราจะไม่ทุจริตคอรัปชั่น ดังนี้เป็นต้น  ทุกคนได้ยินคำอธิษฐานแล้วจะได้ช่วยกันเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติการผ่านพ้นปัญหา อุปสรรคไปได้           

คำอธิษฐานของเราจะไม่เป็นแต่เพียงความคิดลอยๆ คำอธิษฐานที่ไม่มีการกระทำเป็นแต่เพียงฝันกลางวัน  ส่วนการลงมือทำโดยไม่มีการอธิษฐานก็ขาดทิศทางและสะเปะสะปะเพราะว่าเปลี่ยนไป มาอยู่เรื่อย            ปีใหม่นี้ ขอให้ตั้งจิตอธิษฐานโดยเลือกเป้าหมายเพียงอย่างเดียวว่าเราอยากได้ไม่สะเปะ สะปะ  เมื่ออธิษฐานแล้วลงมือกระทำอย่าให้เป็นฝันกลางวัน  ชีวิตเราก็จะมีอะไรใหม่สมกับปีใหม่           เมื่อปีใหม่มาถึงครั้งนี้ อย่าให้โอกาสดีนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรดี ๆ ให้กับชีวิต  ตั้งใจทำบุญด้วยการให้ทาน  รักษาศีลหรือเจริญจิตภาวนาดีแล้ว  อธิษฐานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือต่อหน้าคนที่เรารักเป็นสักขีพยาน เพื่อให้สำเร็จดังที่ตั้งจิตอธิษฐานเป็นแน่นอน

ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลที่บำเพ็ญมาจงปกปักรักษาคุ้มครองให้สิ่งที่ ตั้งจิตอธิษฐานนั้น  จงสำเร็จดังที่ตั้งความปรารถนา  โดยปราศจากทุกข์  โศก  โรค  ภัย  อุปัทวันตรายทั้งปวง  ขอให้ชีวิตที่มีแต่ความเจริญงอกงามไพบูลย์ในร่มธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า  ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใดที่ชอบประกอบด้วยธรรม  ก็ขอให้ความปรารถนานั้น ๆ  จงพลันสำเร็จ  สมมโนรถมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ  ตลอดปีใหม่ และตลอดไปเทอญ ...






ในช่วงชีวิตของคนนั้น ในห้วงแห่งความทุกข์แสนสาหัสที่กรรมฝ่ายไม่ดีกำลังส่งผล ที่เขาเรียกว่า “คนดวงตก” ที่มีหลายกรรมฝ่ายไม่ดีที่เคยทำเข้ามาส่งผลในชีวิตพร้อมๆ กัน

ดวงตกที่ว่ามาจากความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ทางโหรนั้นเรียกคนที่กำลังมีเรื่องราวไม่ดีที่ดึงให้ตกต่ำ ทำอะไรมักติดขัดหรือไม่สำเร็จ ประเภทจับอะไรเป็นเจ๊ง จับอะไรเป็นเรื่องทุกทีเขาว่า ดวงตกหรือดวงชะตาอ่อน

หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” เพราะชีวิตในช่วงนั้นมันวุ่นวายอลหม่านพอสมควรไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงิน เรื่องงาน หลายคน บางช่วงของชีวิต ปัญหางาน ปัญหาการเงิน ปัญหาชีวิต ปัญหาเพื่อน ก็ถั่งโถมเข้ามามากเหลือเกิน จนบางคนแทบทนไม่ไหว

เหตุที่ดวงตก

สาเหตุหลักนั้นมาจาก 2 เรื่อง ของมาจากรรมเก่าในอดีตและกรรมใหม่ที่ทำในชาตินี้ เป็นกรรมฝ่ายไม่ดี ที่มารวมกันในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันจนทำให้ทุกอย่างติดขัดไปหมดเสียทุกเรื่อง และโดยเฉพาะเรื่องของกรรมเก่าในอดีตนั้น เราไม่มีทางทราบว่าเป็นกรรมอะไรบ้าง แต่ถึงไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็พอจะศึกษาด้วยกฎแห่งกรรมได้ เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ทำกรรมแบบนั้นขึ้นมาอีกในชาตินี้ เพราะกรรมเก่าจากอดีตบางกรรม กำลังส่งผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันบางกรรมก็รอที่จะส่งผลในอนาคตอันใกล้นี้

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มากมายในพระไตรปิฎก ถึงที่มาที่ไป เพราะเหตุใดถึงต้องมีชะตาชีวิตแบบนี้ การที่พระพุทธองค์นำมาแสดงไว้เพื่อให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ตระหนักถึงผลของกรรมหรือผลของการกระทำ จะได้ระมัดระวังในการดำรงชีวิต ไม่ไปทำผิดแบบนั้นอีก เพราะผลที่ออกมาก็ต้องทำให้ชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานกันอีก

เรื่องของกฎแห่งกรรมไม่ได้นำมาแสดงให้กลัวจนยอมจำนนต่อกรรมแต่เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตให้ดีขึ้นด้วยมือตัวเอง

หลักการสำคัญที่เราชาวพุทธทั้งหลายควรตะหนักก็คือ การอยู่ในกาลปัจจุบัน อยู่กับกรรมในปัจจุบันมิใช่ไปยืดติดกับกรรมเก่าในอดีต ไปยอมจำนนต่อกรรมเก่าจนไม่กล้า ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปลี่ยนกรรมในปัจจุบันให้ดีขึ้น พร้อมรู้จักระงับกรรมไม่ดีมากมายที่ไม่ควรทำ

อันชีวิตของเรานั้นมาจากกรรมลิขิตทั้งสิ้น ไม่ได้มาจากอำนาจอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า เทพเจ้าองค์ใด ไม่ได้มาจากดวงดาว ดาวพระเคราะห์หรืออะไรเป็นผู้กำหนด การกระทำหรือกรรมของเราเองนั่นแหละเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น

ใครทำอะไรไว้เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับผลที่ทำเอาไว้ตามนั้น ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนผลลัพธ์ไปได้ ทำดีต้องได้ ทำชั่วต้องได้ชั่ว ผลต้องเป็นไปตามนั้นปลูกหรือหว่านอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น ปลุกข้าวก็ต้องได้ข้าว ปลุกกล้วยก็ต้องได้กล้วย ไม่ใช่ปลุกกล้วยแล้วผลออกมาเป็นรวงข้าว มันเป็นไปไม่ได้

ที่เราเรียกว่า “ดวงตก” นั้นอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “วิบากกรรมไม่ดีเข้า” มากกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผลของกรรมไม่ดีที่ทำมากำลังส่งผล อาจจะมีหลายๆ กรรมมาพร้อมๆ กัน อาจจะหนักบ้างเบาบ้าง แต่ก็ทำให้ชีวิตวุ่นวายพอสมควร

เป็นช่วงที่ผลของบุญที่เคยทำมานั้นอาจจะส่งผลน้อยมากหรือกำลังไม่พอกับกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผล ทำให้มีแต่ความทุกข์มากกว่าความสุข คนเรานั้นยิ่งทุกข์อยู่แล้ว มีเรื่องทุกข์เข้ามาเพิ่มแม้จะน้อยนิดเบาเท่าขนนุ่นหรือขนนก ถ้าขาดสติ ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องและวิธีการแก้ไขอาจทำให้ชีวิตนั้นพังทลายได้เหมือนกัน

นอกจากกรรมเก่าที่เราไม่รู้แล้วยังมีกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราทำ ที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วหรือเจตนาหรือไม่เจตนาแต่ผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น ให้เงินคนกินเหล้า เราอาจจะไม่ตั้งใจหรือทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่แต่ก็ให้ไป คนที่ได้เงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน พอเมามายเต็มที่ไปก่อคดีขึ้นมา ก่อกรรมขึ้นมาเพราะเหล้าที่มาจากเงินของเรา ถ้าไม่มีเงินของเราที่ให้ไปเขาก็ไม่มีเงินไปซื้อเหล้ามากินแล้วก่อกรรมขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าเรามีส่วนในกรรมนั้นแน่นอน

หรือเป็นคนขับรถพาคนไปทำแท้ง คนแนะนำสถานที่ให้คนไปทำแท้งหรือพูดจาส่งเดช แบบคนเขาทุกข์มาปรึกษาก็พูดส่งๆ ไปว่า เลี้ยงไม่ไหวก็ไปทำแท้งเสียดีกว่า แล้วเขาก็ไปทำแท้งจริงๆ คนที่พูดนี่ก่อกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนชีวิตนั้นต้องทนทุกข์ทรมานทำอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะมีส่วนร่วมในกรรมนี้ ในการฆ่าคนตาย ร่วมฆ่าเด็กตายโดยไม่เจตนา

แม้แต่การกระทำหรือกรรมในชาตินี้ ทั้งๆ ที่รู้แต่ก็ยังทำ เช่น เป็นคนขี้เกียจ จับจดทำอะไรก็ไม่เอาจริง คิดแต่คอยคดโกงคนอื่น หรือพูดจาโกหกพกลมไปวันๆ พอมีความจำเป็นไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ใครเขาก็จะช่วยเพราะเป็นคนแบบนั้น ทำกรรมขึ้นมาเองหรือเป็นคนที่ทำให้ตัวเองดวงตกด้วยมือ ด้วยการกระทำของตัวเองแท้ๆ ไม่มีใครเขาไปทำให้

หลายเมื่อชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จจับอะไรเป็นพัง ค้าขายอะไรเป็นเจ๊ง ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น ไปโทษเจ้ากรรมนายเวร โทษฟ้าโทษดิน ควรจะโทษตัวเองพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำมาเสียก่อน

สำรวจตนเองว่าทำกรรมดีอะไรมาบ้างในชีวิต ถ้าคิดว่ายังน้อยก็จงรีบทำให้มากเสีย บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริงทั้งสร้างใจให้เป็นสุข หนุนนำชีวิตให้ดีขึ้นและเป็นเสบียงไปเลี้ยงตัวในภพชาติต่อไป

กรรมไม่ดีหรือกรรมชั่วนั้นต้องลด ละ เลิกเสียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรไม่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นแม้เพียงน้อยนิดก็ถือว่าเป็นกรรมไม่ดี ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่าใด เมื่อถึงเวลาส่งผลเราอาจจะรับมือไม่ไหว

ขอให้เชื่อและมั่นใจเถิดว่า การทำกรรมดีหมั่นสร้างบุญกุศลนั้น ช่วยได้จริงสำหรับคนที่ดวงตก ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงทั้งแบบช่วยเหลือเร่งด่วนและแบบถาวร บุญนั้นจะช่วยคลายทุกข์จากหนักให้เป็นเบาหรือเบาให้หายไปได้

กรรมชั่วนั้นเหมือนกับยาพิษ ถ้าเรากินเข้าไปทันทีเราอาจจะตายได้ถ้าเราเอายาพิษนั้นไปใส่ไว้ในตุ่มแล้วเอาน้ำสะอาดใส่เข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยาพิษนั้นก็เจือจางจนแทบไม่มีผลอะไรอีกแล้ว กรรมดีนั้นเหมือนน้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่เราเติมเข้าไปในตุ่ม ที่ยิ่งมีมากเท่าใด ยาพาหรือกรรมชั่วนั้นก็แทบไม่มีพิษสงอะไรอีก

กรรมที่ติดตามเรามานั้นเหมือนหมาไล่เนื้อ เมื่อมันวิ่งทันเหยื่อหรือตัวเราเมื่อใดมันจะกัดกินทันที ยิ่งเมื่อเหยื่ออ่อนแรงหรือบุญนั้นน้อยไม่มีกำลังพอ มันก็วิ่งมาทันและมากัดกินได้ง่ายดาย แต่ถ้าเหยื่อนั้นมีกำลังหรือมีบุญมากกว่า มีแรงวิ่งแบบไม่หยุดและเร็ว หมาไล่เนื้อมันก็วิ่งตามไม่ทัน

แต่ถ้าเหยื่อนั้นประมาทหรือหลงทางคือ ทำกรรมชั่วมากขึ้นไปอีกยิ่งไปตัดทอนกำลังที่จะวิ่งหนีหรือถึงขั้นวิ่งมาหมาไล่เนื้อเอง ชีวิตของเหยื่อคงต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและเร็วขึ้นแน่นอนอุปมาทั้ง 2 เรื่องที่ยกมานั้นคือเรื่องของกรรมดีและกรรมชั่วโดยเฉพาะ

ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ถ้าเราทราบจากเหตุดังที่กล่าวมาแล้วว่า เป็นเพราะกรรมไม่ดีที่เราทำนั้นส่งผลก็จึงมีอยู่ 2 ทางที่เร่งด่วนที่จะแก้ไข ก็คือ ลด ละ เลิกอย่าทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีกที่มาซ้ำเติมชีวิตของตนเอง และเร่งทำกรรมดีพาตัวเองให้รอดจากกรรมชั่วที่กำลังส่งผลนั้นเสีย

เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดมาก หลายคนจึงยากที่จะเข้าใจว่ากรรมใดจะเกิดก่อนหรือเกิดทีหลัง เป็นเพราะความหนักเบา ที่ขึ้นอยู่กับวัตถุ ประโยคหรือความพยายามและเจตนา แต่ดูได้ง่ายๆ จากผลที่เกิดขึ้นนั้นดีหรือร้ายแรงกระทบออกไปเพียงใดทั้งต่อตนเอง ต่อคนอื่นและคนหมู่มากแค่ไหน

คนที่โกงเงินคนอื่นเพียงคนเดียว ย่อมได้ผลแห่งกรรมนั้นน้อยกว่าคนที่คดโกงเงินของชาติบ้านเมือง ที่มาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของคน 60 ล้านคน คนที่ก่อคดีเดียวย่อมได้รับโทษน้อยกว่าคนที่ก่อคดีมาเป็นสิบ เจ้าทุกข์หรือเจ้ากรรมนายเวรก็มากกว่า ผลที่ทำมาก็มากกว่าเช่นกัน

คนที่ฆ่าสัตว์แบบครั้งเดียวไม่เจตนาเช่น เดินเหยียบหอยทากตายกับคนที่ฆ่าช้างแบบเฝ้ากันเป็น 10 วัน 10 คืน กว่าจะฆ่ามันได้ต้องใช้ลูกปืนเป็นร้อยนัด สร้างความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้ช้าง ย่อมจะได้รับกรรมที่หนักกว่า

คนที่เพียรพยายามทำงานด้วยความสุจริต ทำกรรมดีมาเป็นเวลา 10-20 ปีหรือชั่วชีวิตย่อมได้รับผลจากที่ทำมาได้รับการนับถือยกย่องมากกว่าคนที่พยายามทำดีเพียงวัน 2 วัน

อันคนเรานั้นเวียนว่าย ตาย เกิดมานับไม่ถ้วนย่อมก่อกรรมทั้งดีและร้ายมามากมายเหลือคณานับ ลองคิดแค่ชาติเดียวที่เกิดมานี้ ลองนั่งทำใจให้นิ่ง นึกย้อนหลังไปก็จะพบว่าเรากระทำอะไรมามากมาย นี่แค่ชาติเดียว และถ้าหลายร้อยชาติ พันชาติ เราสร้างกรรม สร้างเจ้ากรรมนายเวรมามากมาย นึกเปรียบเทียบดูว่าเราไปยืมเงินคนมาสัก 10 คน เมื่อถึงวันหนึ่งเจ้าหนี้ทั้ง 10 คนเขามาทวงหนี้พร้อมๆ กันในวันเดียว แล้วเราจะทำอย่างไร

คนที่มีเงินกักตุนไว้หรือมีบุญกักตุนไว้เยอะก็คงพอจะรอดไปได้ แต่คนที่ไม่มีเงินหรือเงินน้อยหรือบุญน้อยจะทำอย่างไรดี ช่วงเวลาที่เขามาทวงพร้อมกันนั่นแหละที่เขาเรียกกันจนชินปากว่า”ดวงตก” เพราะเป็นช่วงที่แย่สุดสุด เป็นช่วงที่ทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมใหม่เขามายืนทวงพร้อมกัน ชีวิตของเราคงแย่แน่นอน

ลองพิจารณาดูถ้าเห็นว่าดีกับชีวิตจึงค่อยทำ แต่ถ้าไม่เชื่อและไม่คิดว่ามันจะดีกับชีวิตก็ขอให้อย่าทำ ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปเสีย



ชีวิตล้มเหลวติดขัดทุกข์ใจ ตกอับโชคร้าย หนี้สินรุมเร้าปัญหาชีวิตรุนแรง ทำกินไม่ขึ้น ได้เงินเท่าไหร่ก็มีเหตุต้องเสียไปตลอด เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ โชคลาภไม่เคยมี ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ไม่รวยเสียที มีแต่เจ๊งกับเจ๊า!!! ความรักไม่เป็นรองเขาก็มีมือที่สามสี่ห้า คนรอบข้างไม่รักไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจพึ่งพาใครไม่ได้
- - - - - - - - - - - - - -
หากทำมาแล้วทุกอย่างชีวิตไม่เคยดีขึ้น ให้จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เทียนสืบชะตาล้านนา จุดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง หนุนชะตาดู เป็นศาสตร์วิชาศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา ที่ครูบาอาจารย์สร้างเอาไว้ช่วยเหลือคนดวงตก วิบากกรรมไล่ล่ารุนแรง ชีวิตตกต่ำทำมาหากินไม่ขึ้น การเงินวิกฤต หนี้สินล้นตัว


เมื่อเจ้าชะตาได้จุดจุดบริกรรมบูชาเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ เสริมบุญหนุนดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ขอขมากรรมไปแล้ว พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว และดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น เกิดเมตตาสง่าราศี ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยดี ชีวิตจะกลับมาสว่าง ลืมหู ลืมตาได้อีกครั้ง เป็นการเสริมดวง หนุนชะตาชีวิต ให้หลบหลีกเคราะห์ พ้นโชคร้าย เปิดดวง รับโชคดี รับโชคลาภวาสนา ให้จุดสร้างบุญเสริมบารมีติดต่อกัน 9 วัน จุดวันละ 1 เล่ม ควบคู่ไปกับการสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ  ก็จะได้รับโชคดี จะมีโชคลาภ ความสำเร็จสมประสงค์ ดังปรากฎให้เห็นมาแล้ว มากมาย

ผู้ใดที่มีโอกาสได้จุดบูชา ล้วนได้พบอัศจรรย์ชีวิต พลานุภาพแห่งเทียนป๋าระมี๓๐ทัศนี้เป็นสิ่งรู้เฉพาะตน รู้ได้ก็เฉพาะผู้ทึได้จุดบูชาเท่านั้น!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬

💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

ยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศนี้..เป็นวิชาที่พระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แล้วอาราทนาก่อนออกทำการ "ยุทธหัตถี" กับมหาอุปราชา จนทำให้ทรงมีชัยชนะ ทรงปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้ได้ สมัยโบราณ ตีราคาพระยันต์นี้เท่ากับค่าควรเมืองเลยทีเดียว จึงเรียกยันต์เทียนนี้ว่ายันต์เทียนพิชัยครามแห่งการชนะศึก ศัตรูแพ้พ่าย ด้วยมหาอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนบารมี๓๐ทัศจุดบูชาดวงชะตา ลดเคราะห์-สะเดาะวิบากกรรม ขอขมากรรม พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว อำนาจแห่งบุญและอโหสิกรรมจะยกดวงชะตาให้สูงขึ้น เหนือดวงชะตาเดิม เกิดเมตตามหานิยม อำนาจบารมี มีสง่า มีราศี พาผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ให้พ้นผ่านไปด้วยดี แคล้วคลาดหลีกเคราะห์ ค้ำคูณหนุนดวงชะตาราศี ชีวิตจะกลับมาสว่าง รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ อีกครั้ง อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ จะเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ บารมี ให้เป็นที่รักใคร่เมตตาต่อมนุษย์และเทวดา ปัดเป่าสรรพเคราะห์ทั้งหลายให้หายไปจากตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่งชีวิตมั่นคง โชคลาภความโชคดีจะไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาด จะเหนือคนเหนือใครเหนือดวง ศัตรูแพ้พ่าย บริวารและมิตรไม่คิดคดทรยศ ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครทำ ชีวิตก็จะดีขึ้นเหนือดวงชะตาได้อย่างอัศจรรย์!!!

( 1คาบมี 9 เล่ม หมั่นจุดจะยกดวงชะตาให้เหนือกว่าดวงชะตาเดิม )
▬▬▬▬▬▬▬▬▬
เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ 1 คาบมี 9 เล่ม
จุดติดต่อกันวันละ 1 เล่ม ติดต่อกัน 9 วัน

❅ ไส้เทียนฟั่นจากสายสินญ์ปลุกเสกแช่น้ำส้มป่อยล้างคุณไสยสิ่งอัปมงคลทั้งปวง พันล้อมด้วยยันต์เทียนบารมี๓๐ทัศ มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์จารล้อม ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แห่งดวงชะตาเจ้าของเทียนแบบเฉพาะตัวบุคคล

❅ สีเทียนล้อมมหายันต์ด้วยขี้ผึ้งแท้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกฟั่นเทียนปลุกเสกบริกรรมเวทย์คาถาปัดเคราะห์ หนุนดวง เสริมชะตา เล่ม-ต่อ-เล่ม ตามโบราณพิธีครบสูตร -

▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 มีเรื่องเล่าว่า...ครั้งหนึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัย เดินธุดงค์แถบภาคเหนือ ขณะที่ท่านเดินผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง ท่านได้สังเกตุเห็นกระท่อมที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ก็เหลือชายคาอีกบางส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟ ท่านแปลกใจ จึงเดินไปดู ก็ได้เห็นหนังสือใบลาน เป็นคาถาบารมี ๙ ชั้น อยู่ฉบับหนึ่ง เหน็บอยู่ที่ชายคา เขียนเป็นภาษล้านนา(ตั๋วเมือง) ซึ่งเป็นคำไหว้บารมี ๓๐ ทัศนั่นเอง
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢 " เทียนป๋ารามี๓๐ทัศ "ทุกเล่ม ครูบาอาจารย์ตั้งใจกำหนดจิต สร้างให้มีฤทธิ์ มีอิทธิคุณคุ้มครองแคล้วคลาดหลีกเคราะห์อย่างวิเศษ ผู้จุดบูชาก็ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อมั่น ศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ก็จะนำมาซึ่งปาฎิหาริย์ต่อชีวิตอันประมาณมิได้เลย ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนานี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครหมั่นจุด ชีวิตก็จะดีขึ้นจะรุ่งโรจน์เหนือดวงชะตาเดิมได้อย่างอัศจรรย์!!!
▬▬▬▬▬▬▬▬
💢เทียนป๋าระมี๓๐ทัศ💢
- มหายันต์เทียนแห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย -

เจ้าชะตาบูชาเทียนไปจุดด้วยตนเองที่บ้าน 1 คาบมีเทียน 9 เล่ม จุดติดต่อกัน 9 วันๆละ 1 เล่ม

หรือขอบารมีพระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตาตามมนต์พิธีโบราณแห่งล้านนาเสริมให้เจ้าชะตา...

พระอาจารย์จุดเทียนป๋าระมี๓๐ทัศ สืบชะตาสะเดาะเคราะห์ เดือนละ 2ครั้ง

1.ฤกษ์ปุรณมีจันทร์เพ็ญเต็มดวง เสริมดวงเสริมบุญบารมี ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ชีวิตมั่งคั่ง มั่นคง (วันขอพร อำนาจ ความสำเร็จ ความสมบูรณ์เป็นเลิศ ความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ ไม่สิ้นสุด )

2. ฤกษ์อมาวสี new moon เริ่มต้นรอบใหม่แห่งจันทรา เปิดรับสิ่งดีงามเข้ามาสู่ชีวิต ดับเคราะห์ดับภัย เปิดดวง รับโชคลาภ มีโชคดี (วันขอเงินขอโชคลาภพระจันทร์)

หมั่นพึ่งบุญบารมีให้พระอาจารย์จุดเทียนสืบชะตา สะเดาะเคราะห์ เสริมบุญหนุนดวง รับโชคดีมีโชคลาภให้เสมอ เสริมกับการหมั่นจุดเทียนเองด้วย ดวงชะตาจะสูงขึ้น ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ชีวิตรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง สำเร็จ สมปรารถนา หมดเคราะห์ ลดกำลังวิบากกรรม เปิดดวง รับโชคดี มีโชคลาภวาสนาได้ทันตาทันใจ !!
▬▬▬▬▬▬▬▬


“เมื่อบุญถึง จะทำอะไรก็สำเร็จ ไม่มีอำนาจใดมาขวางทางบุญได้”






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น